Tuesday, April 28, 2009

ทอดมันกุ้ง : deep fried shrimp cakes

ปกติทอดมันกุ้งเค้าจะใช้มันหมูเป็นส่วนประกอบด้วยใช่มั้ยคะ แต่เราใช้หมูสับแทนค่ะ ทอดมันก็ออกมาเด้งดึ๋ง อร่อยไม่ต่างจากที่ใส่มันหมูเลยค่ะ อ้วนน้อยกว่าด้วย อันนี้สำคัญ อิอิ


เครื่องปรุง โดยประมาณนะคะ
1. กุ้งสดปอกเปลือก 300 กรัม
2. หมูสับ 150 กรัม
3. น้ำมันหอย 1 ชต.
4. ซีอิ้วขาว 1 ชต.
5. พริกไทยป่น เกลือ น้ำตาลทราย
6. เกล็ดขนมปังป่น

วิธีทำ

นำกุ้งสดที่ปอกเปลือกผ่าหลังและเอาเส้นดำออกแล้ว ผสมกับหมูสับ บดรวมกันให้ละเอียดและเหนียวหนึบหนับเลยค่ะ

ใส่น้ำมันหอย ซีอิ้วขาว พริกไทยป่น เกลือ และน้ำตาลทรายลงไปผสม นวดให้เข้ากันดี แบ่งส่วนผสมมานิดนึง ปั้นเป็นก้อนเล็กๆ แล้วเอาเข้า ไมโครเวฟพอสุกเพื่อชิมรสดู หากไม่พอใจรสชาติก็ปรุงรสเพิ่มตอนนี้เลยค่ะ จากนั้นนำไปแช่เย็นประมาณ 1 ชม. หรือช่องฟรีซประมาณ 1/2 ชม.

เมื่อถึงเวลาทอดนำส่วนผสมออกมาจากตู้เย็น ล้างมือให้สะอาดแล้วก็ปั้นส่วนผสมกุ้งเป็นก้อนกลมๆ แล้วกดให้แบน ก่อนที่จะชุบเกล็ดขนมปังป่น นำลงทอดในน้ำมันเยอะๆ ทอดไฟแรงจนสุกเหลืองทั้งสองด้าน แล้วตักขึ้นวางบนกระดาษทิชชูเพื่อซับน้ำมัน แค่นี้ก็เรียบร้อย เสิร์ฟคู่กับน้ำจิ้มบ๊วย อร่อยสุดๆ เลยค่ะ

น้ำจิ้มบ๊วย
1. บ๊วย 2 เม็ด
2. น้ำบ๊วย 2 ชต.
3. น้ำส้มสายชู 3-4 ชต.
4. น้ำตาลทราย 3-4 ชต.
5. เกลือ 1/2 ช้อนชา

วิธีทำ

นำส่วนผสมทุกอย่างใส่หม้อ ยีบ๊วยให้ละเอียดแล้วใส่ลงไปผสม นำหม้อตั้งไฟอ่อน เคี่ยวไปเรื่อยๆ จนข้นเหนียว ชิมรสตามชอบ ก็ปิดไฟค่ะ

Monday, April 27, 2009

ยำมะเขือม่วง : aubergine spicy salad

เครื่องปรุงโดยประมาณ สำหรับรับประทาน 2 คน
  • น้ำมะนาว 3 ชต.
  • น้ำปลา 3 ชต.
  • น้ำตาลทราย 1 1/2 ชต.
  • น้ำกระเทียมดอง 1/2 ชต.
  • กระเทียม 2 กลีบ
  • พริกชี้ฟ้า 5-7 เม็ด
  • พริกไทยป่นนิดหน่อย
  • กุ้งสด 4-5 ตัว
  • ปลาหมึกกล้วย 1 ตัว
  • หมูสับ 50 กรัม
  • กุ้งแห้ง 3 ชต.
  • หอมแดง 2 หัว
  • ไข่ต้ม 1 ฟอง
  • ผักกาดหอม
  • มะเขือม่วง 1 ลูก
  • น้ำมันมะกอก 1-2 ชต.
วิธีทำ
  • ทำน้ำยำไว้ก่อนเลยค่ะ ปอกกระเทียมแล้วหั่นหยาบๆ พริกชี้ฟ้าล้างให้สะอาดแล้วหั่นท่อน เสร็จแล้วก็โขลกรวมกัน ไม่ต้องละเอียดมากก็ได้ค่ะ จากนั้นเติมน้ำปลา น้ำมะนาว น้ำตาลทราย น้ำกระเทียมดองและพริกไทยป่นลงไปคนให้เข้ากัน ชิมรสตามชอบแต่อย่าปรุงให้หวานมากนะคะ เพราะมะเขือมีรสหวานอยู่แล้ว เสร็จก็แล้วเทน้ำยำใส่ชามสลัดไว้ค่ะ

  • เมื่อได้นำ้ยำแล้วเราก็ไปจัดการกับเครื่อง ที่จะใส่ในยำต่อค่ะ นำหอมแดงมาปอกเปลือกแล้วหั่นบางๆ กุ้งแห้งทอดให้กรอบ ผักกาดหอมล้างให้สะอาด สะเด็ดน้ำแล้ววางรองจานเสิร์ฟไว้ค่ะ จากนั้นนำปลาหมึกไปลอกเยื่อออก ล้างให้สะอาด หั่นเป็นวงหรือบั้งเป็นตารางเหมือนเราก็ได้ค่ะ ส่วนกุ้งก็แกะเปลือกไว้หาง ผ่าหลังดึงเส้นดำออก ล้างให้สะอาด นำน้ำใส่หม้อต้มให้เดือดพล่าน ลวกกุ้งและปลาหมึกให้สุกแล้วตักขึ้น ใส่หมูสับลงไปลวกต่อจนสุกค่ะ ไข่ต้มปอกเปลือก หั่นวง ผ่าครึ่ง หรือผ่าสี่ยังไงตามใจชอบค่ะ

  • มาถึงพระเอกของงานแล้ว นำมะเขือม่วงมาตัดขั้วออก หั่นชิ้นหนาประมาณ 1 ซม. ฉีดน้ำมันมะกอกบางๆ ให้ทั่วทุกแผ่น นำกระทะตั้งไฟกลางค่อนข้างแรง พอกระทะร้อนก็วางมะเขือม่วงลงไปย่างจนมะเขือนิ่มและสีสวยทั้งสองด้าน ตักขึ้น หากมะเขือม่วงลูกใหญ่มากก็ผ่าสี่ ถ้าไม่ใหญ่มากก็ผ่าครึ่งค่ะ

  • ใส่กุ้ง ปลาหมึกและหมูสับที่ลวกไว้ลงไปในน้ำยำ คนให้เข้ากันแล้วใส่มะเขือม่วงลงไปคลุก 2-3 ครั้ง ก็เทใส่จานเสิร์ฟที่รองด้วยผักกาดหอมไว้ค่ะ จากนั้นก็โรยหน้าด้วยกุ้งแห้งทอดและหอมแดง แต่งจานด้วยไข่ต้มซะ แค่นี้ก็เรียบร้อยค่ะ

Sunday, April 26, 2009

ยำวุ้นเส้น : glass noodle salad

วันนี้ที่บ้านกินยำวุ้นเส้นแซ่บ ๆ เป็นมื้อเย็นค่ะ อร่อยมาก ๆ แล้วก็เผ็ดได้ใจเหลือเกิน เรียกว่ากินทั้งน้ำตาเลยค่ะ ยำวุ้นเส้นเนี่ยไม่ได้ทำกินมาตั้งเกือบปีแล้วมั้ง เพิ่งมาอยากกินอีกทีก็วันเกิดพี่สาวสามีน่ะค่ะ ถามพี่ว่าอยากกินอะไร เค้าก็ออเดอร์ยำวุ้นเส้นมา เราทำไปให้แต่ไม่ได้กินเลย วันนี้นึกอยากกินขึ้นมาเลยทำกินซะหน่อย อร่อยสมใจ เดี๋ยวพรุ่งนี้ทำกินอีกดีกว่า

เครื่องปรุงโดยประมาณ สำหรับรับประทาน 2 คน
1. กระเทียมปอกเปลือก 2 กลีบ
2. กระเทียมดอง 1/4 หัว
3. น้ำกระเทียมดอง 1-2 ชต.
4. พริกชี้ฟ้า 5 เม็ด
5. น้ำมะนาว 2-3 ชต.
6. น้ำตาลทรายแดง 1 ชต.
7. น้ำปลา 2 ชต.
8. ซีอิ้วขาว 1/2 ชต.
9. วุ้นเส้น 60 กรัม
10. กุ้งสด 4 ตัว
11. หมูสับ 50 กรัม
12. ลูกชิ้นปลา 5-6 ลูก
13. หมูยอ 5-6 แผ่น
14. กุ้งแห้ง 2 ชต.
15. ถั่วลิสง 1/4 ถ.
16. หอมหั่วใหญ่ 1/2 หัว
17. มะเขือเทศ 1-2 ลูก
18. ต้นหอม 2 ต้น

วิธีทำ

1. ปั่นส่วนผสมข้อ 1-9 รวมกัน ไม่ต้องละเอียดมากก็ได้ค่ะ เสร็จแล้วก็ชิมรสตามชอบ จากนั้นก็ไปเตรียมเครื่องปรุงอื่นๆ ค่ะ

* กุ้งสด ปอกเปลือก ไว้หาง ผ่าหลัง ลวกพอสุก
* หมูสับลวกให้สุก
* ลูกชิ้นปลาลวก
* หมูยอลวก
* กุ้งแห้งทอดให้กรอบ
* ถั่วลิสงทอด
* หอมหัวใหญ่ ปอกเปลือก หั่นเส้น
* มะเขือเทศหั่นเสี้ยว
* ต้นหอมหั่นท่อน
* วุ้นเส้นลวกสุก

2. เมื่อเตรียมเครื่องเรียบร้อยแล้วก็เทใส่ชามผสม ราดด้วยน้ำยำ คลุกเคล้าให้เข้ากัน นำผักสลัดรองจาน แล้วก็ตักยำวุ้นเส้นใส่ ง่ายๆ แค่นี้เอง ก็ได้อร่อยกันได้แล้วค่ะ

Saturday, April 25, 2009

ผัดซีอิ้ว : stir fried noodle in sweet soy sauce

ส่วนผสมโดยประมาณ
  • ก๋วยเตี๋ยวเส้นใหญ่ 200 กรัม
  • เนื้อหมู 200 กรัม (หั่นชิ้นบางๆ หมักกับน้ำมันหอย ซีอิ๊วขาว พริกไทยป่น น้ำตาลทรายและแป้งข้าวโพด แช่เย็นไว้อย่างน้อย 30 นาทีค่ะ)
  • กระเทียมกลีบใหญ่ 2 กลีบ
  • ไข่ไก่ 2 ฟอง
  • ซีอิ๊วดำ 1 ชต.
  • ซีอิ๊วขาว 1 ชต.
  • น้ำมันหอย 1 1/2 ชต.
  • น้ำตาลทราย 1/2 - 1 ชช.
  • น้ำมันพืช 2-3 ชต.
  • ผักคะน้า 2 ต้น
  • พริกป่น น้ำส้มพริกดอง
วิธีทำ
ก๋วยเตี๋ยว เส้นใหญ่หากเป็นเส้นสดก็นำไปคลุกกับซีอิ้วดำให้เข้ากันเลยค่ะ แต่ถ้าใครใช้เส้นแห้งก็นำไปแช่น้ำให้นิ่ม สะเด็ดน้ำ แล้วจึงนำไป คลุกกับซีอิ๊วดำเพื่อเตรียมผัดต่อไปค่ะ จากนั้นก็แกะเปลือกแข็งของกระเทียมออก สับหรือบุบหยาบๆ ค่ะ ผักคะน้าล้างให้สะอาดแล้วหั่นใบ ส่วนก้านก็ปอกเปลือกแข็งออกก่อนหั่นเฉียงค่ะ
นำกระทะตั้งไฟกลาง ใส่น้ำมันพืชลงไป พอน้ำมันร้อนใส่กระเทียมผัดพอหอม จากนั้นใส่เนื้อหมูที่หมักไว้ลงไปผัดรวมกันจนหมูสุก เร่งไฟ แรงแล้วใส่เส้นก๋วยเตี๋ยวผัดให้เข้ากัน แล้วเกลี่ยเส้นไว้ด้านข้างกระทะ ตอกไข่ใส่กระทะ เกลี่ยไข่แดงให้แตก แล้วใช้ตะหลิวพลิกเส้นมา กลบไข่ ทิ้งไว้สักพักพอไข่เริ่มสุกก็ใช้ตะหลิวขยี้ๆ ให้ไข่กระจายทั่วถึงค่ะ
ปรุงรสด้วยซีอิ๊วขาว น้ำมันหอย และน้ำตาลทราย ผัดให้เข้ากันแล้วใส่ก้านคะน้า ผัดรวมกับเส้นพอเข้ากัน ใส่ใบคะน้า คน 4-5 ครั้งก็ปิดไฟ แล้วตักใส่จานเสิร์ฟ ปรุงรสเพิ่มตามชอบด้วยพริกป่นและน้ำส้มพริกดอง อิ่มไปอีกมื้อค่ะ

Thursday, April 23, 2009

มาคารองส้ม : Orange Macarons with Orange caramel

ส่วนผสม สำหรับมาคารง 10 คู่
  • อัลมอนด์มีล 42 กรัม
  • น้ำตาลไอซิ่ง 65 กรัม
  • กลิ่นส้มชนิดผง
  • ไข่ขาวอุณหภูมิห้อง 35 กรัม (ประมาณไข่เบอร์เอ็ม 1 ฟอง)
  • สีส้ม 2 หยด
  • เกลือ 1 หยิบมือ
  • น้ำตาลทราย 10 กรัม
วิธีทำ เตรียมถาดอบ 2 ถาด ปูกระดาษไขรองไว้ให้เรียบร้อย นำถุงบีบใส่หัวบีบกลมวางไว้บนถ้วยหรือแก้วทรงสูง เตรียมไว้ให้พร้อมเลยค่ะ 
ผสมอัลมอนด์มีลกับไอซิ่งเข้าด้วยกัน แล้วนำไปบดอีกครั้งจนเนื้อละเอียดมากๆ เสร็จแล้วก็นำไปร่อนผ่านตะแกรงตาห่าง 1 ครั้งค่ะ ใส่กลิ่นส้มไปร่อนรวมกันด้วยค่ะ จากนั้นก็จัดการตีไข่ขาวกับสีส้มและเกลือด้วยความเร็วต่ำจนเป็นฟอง แล้วจึงเปลี่ยนเป็นความเร็วสูง ค่อยๆ ใส่น้ำตาลทรายลงไปตีผสมจนไข่ขาวตั้งยอดอ่อนและผิวขึ้นเงาค่ะ สุดท้ายแบ่งส่วนผสมแห้งลงไปตะล่อมเบามือด้วยพายยางรวมกับไข่ขาวจนเข้ากันดี มายาแบ่งใส่ 3-4 ครั้งค่ะ

เทส่วนผสมใส่ถุงบีบแล้วบีบลงบนถาดที่เตรียมไว้ให้มีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง ประมาณ 3 ซม. และบีบให้มาคารงห่างกันประมาณ 5 ซม. ค่ะ เมื่อบีบจนส่วนผสมหมดแล้วก็พักมาคารงไว้ประมาณ 30 นาที อุ่นเตาอบ 150-160 องศาเซลเซียส พอความร้อนได้ที่นำขนมเข้าอบโดยใช้ไม้คั่นฝาอบให้แง้มเล็กน้อยตลอดเวลาที่อบ อบไฟล่างอย่างเดียวประมาณ 10 นาที หรือจนกว่าจะสุก

เมื่อขนมสุกแล้วนำออกจากเตาอบ แล้วพักขนมให้เย็น 5-10 นาทีแล้วค่อยแซะขนมออกวางบนตะแกรง พักไว้ให้เย็นสนิทจึงใส่ไส้ค่ะ

ไส้คาราเมลส้ม
  • น้ำตาลทราย 40 กรัม
  • เกลือ 1 หยิบมือ
  • น้ำ 1/2 ชต.
  • น้ำส้มคั้น 40 กรัม
  • เนยสด 40 กรัม
ใส่ น้ำตาลทราย เกลือ และน้ำในหม้อใบเล็ก นำขึ้นตั้งไฟจนน้ำตาลทรายที่ขอบหม้อเริ่มเปลี่ยนเป็นสี ใส่น้ำส้มคั้นลงไปโดยไม่ต้องคน รอให้น้ำตาลละลายหมด และเป็นคาเมลเหนียวดีแล้ว ก็ปิดไฟพักให้เย็นสัก 2 นาทีแล้วใส่เนยลงไปคนให้เข้ากัน พักให้เย็นสนิทก่อนนำไปใส่ไส้มาคารองค่ะ

Battenburg Cake

 
วันนี้จะชวนเพื่อนๆ ที่เป็นแฟนมาร์ซิแพนทำ Battenburg cake หรือ Battenberg cake หรือ Window cake กันค่ะ ว่ากันว่าชื่อที่ถูกต้องจริงๆ แล้ว ต้องเป็น Battenberg cake แต่คนจะรู้จักในนาม Battenburg cake มากกว่า เหตุผลก็เห็นเค้าว่ากันว่าคนเยอรมันที่อยู่ในอังกฤษเป็นคนเผยแพร่ให้รู้จักหรือไงเนี่ยค่ะ ชื่อเลยเพี้ยนตามสำเนียงเยอรมัน แต่ไม่ว่าจะเขียนยังไงมันก็คือเค้กปอนด์ลายหมากรุกที่ทาแยมแล้วหุ้มด้วยมาร์ซิแพนค่ะ ส่วนตัวเราไม่ชอบกินเลย (แล้วเอาสูตรมาลงทำไมเนี่ย 555) เหตุผลที่ไม่ชอบเพราะเกลียดมาร์ซิแพนค่ะ แต่เจ้านายที่บ้านเป็นแฟนที่เหนียวแน่นของมาร์ซิแพนก็เลยทำน่ะค่ะ เค้าชอบมากๆ กินไปก็พึมพัม...อืมมมๆๆๆ ตลอด ใครปลื้มมาร์ซิแพนก็ลองทำดูนะคะ เผื่อจะชอบ

ส่วนผสมตัวเค้ก สำหรับพิมพ์โลฟขนาด 18 ซม. 2 พิมพ์
  • แป้งอเนกประสงค์ 100 กรัม
  • อัลมอนด์มีล 30 กรัม
  • ผงฟู 1/2 ชช.
  • เกลือป่น 1 หยิบมือ
  • เนยสด 110 กรัม
  • น้ำตาลทรายเม็ดละเอียด 110 กรัม
  • ไข่ไก่เบอร์เอ็ม 2 ฟอง
  • วานิลาเอ๊กซ์แทร็ค 1/4 ชช.
  • สีแดง 2 หยด
  • สีเหลือง 1 หยด (ไม่ใส่ก็ได้ค่ะ)
  • แยมแอพริคอท 50 กรัม
  • มาร์ซิแพน 250 กรัม (หากใครหาซื้อไม่ได้ก็ทำเองได้ค่ะ สูตรอยู่ข้างล่างแล้ว ทำง่ายมั่กๆ)
วิธีทำ ทาเนยบางๆ ให้ทั่วพิมพ์แล้วโรยแป้งนวล หรือปูกระดาษไขรองพิมพ์แทนก็ได้ค่ะ อุ่นเตาอบไว้ที่ 180ซี แล้วจัดการร่อนแป้ง อัลมอนด์มีล  ผงฟู และเกลือรวมกันไว้ด้วยนะคะ 

จากนั้นใส่เนยในอ่างผสมตีพอเนียน ค่อยๆ ใส่น้ำตาลทีละน้อยจนหมด ตีจนเนยเป็นครีมขึ้นฟูดีค่ะ ใส่ไข่ทั้งสองฟองและวานิลาลงไปตีรวมกับเนยพอเข้ากัน แล้วใส่แป้งที่ร่อนไว้ตีด้วยความเร็วต่ำแค่พอเข้ากันก็หยุดตีค่ะ

แบ่งส่วนผสมเป็นสองส่วนเท่าๆ กัน ส่วนหนึ่งผสมสีแดงคนเบามือพอเข้ากัน แล้วเทใส่พิมพ์ปาดให้เรียบ อีกส่วนหนึ่งผสมสีเหลืองหรือถ้าหากไม่ใส่สีเหลืองก็เทใส่พิมพ์อีกพิมพ์เลยค่ะ

นำเข้าอบพร้อมกันประมาณ 20 นาทีหรือจนเค้กสุก ทดสอบโดยใช้ไม้จิ้มฟันทิ่งตรงกลางเค้ก หากไม่มีเศษแป้งติดไม้มาแสดงว่าสุกแล้วค่ะ นำเค้กออกจากเตา พักพอเย็นตัวลงสัก 5 นาที แล้วนำเค้กออกจากพิมพ์ ตัดแบ่งครึ่งทั้งสองสี พักไว้บนตะแกรงจนเค้กเย็นอุณภูมิห้องค่ะ

ส่วนผสมมาร์ซิแพน ได้มาร์ซิแพนประมาณ 500 กรัมค่ะ เราใช้แค่ 250 กรัม ส่วนที่เหลือห่อพลาสติกแล้วเก็บไว้ใช้ได้หลายเดือนเลยค่ะ
  • อัลมอนด์มีล 300 กรัม
  • น้ำตาลไอซิง 330 กรัม
  • ไข่ไก่ 1 ฟอง
  • น้ำมะนาว 1/2 ชต.
  • กลิ่นอัลมอนด์ 2-3 หยด
วิธีทำ 

ปั่นอัลมอนด์มีลผสมไอซิ่งนิดหน่อยซ้ำอีกครั้งให้ละเอียดที่สุด เสร็จแล้วเทใส่อ่างผสม ใส่ไอซิ่ง ไข่ไก่ น้ำมะนาว และกลิ่นอัลมอนด์ตามลงไป นวดให้เนียนมือ หากแห้งเกินไปเหยาะน้ำสะอาดไปนิ๊ดนึง หากเหลวเกินไปเพิ่มไอซิ่งอีกหน่อยค่ะ

เมื่อเค้กเย็นแล้วก็นำแยมมาผสมน้ำนิดหน่อย แล้วนำอุ่นบนเตาหรือในไมโครเวฟ คนให้เนียนแล้วจัดเค้กวางสลับสีกันเป็นตารางหมากรุก ทาด้วยแยมทั้งด้านในและด้านนอกเค้กให้ทั่ว จากนั้นโรยน้ำตาลไอซิ่งบนโต๊ะบางๆ นำมาร์ซิแพนมาคลึงเป็นแผ่นสี่เหลี่ยมขนาดใหญ่พอที่จะหุ้มเค้กได้รอบ นำเค้กมาวางบนปลายด้านหนึ่งของแผ่นมาร์ซิแพนแล้วตลบปลายอีกด้านหนึ่งมาหุ้มเค้กให้รอบ ตัดส่วนเกินออกไปแล้วตกแต่งให้เรียบร้อยค่ะ


เห็นมั้ยคะ ง่ายๆ แค่นี้เองก็ได้เค้กอร่อยๆ (สำหรับคนชอบ 55) มาทานกับน้ำชายามบ่ายแล้วค่ะ  ยังไงลอง
ทำดูนะคะ เผื่อจะติดใจเหมือนคุณพ่อบ้านแถวๆ นี้ค่ะ

Wednesday, April 22, 2009

คาราเมลคัสตาร์ด : custard au caramel

Caramel Custard / Flan / Creme au Caramel / Caramel Pudding ขนมแบบเดียวกันแต่มีชื่อเรียกหลากหลายเหลือเกิน แต่จะเรียกยังไงมันก็ คือคัสตาร์ดเนื้อนุ่มๆ เด้งดึ๋ง ที่ด้านบนของครีมถูกปกคลุมด้วยคาราเมลหอมหวาน กินแล้วก็อร่อยชื่นใจแต่ลืมอ้วนไปเลยค่ะ

ส่วนคาราเมล ส่วนผสมสำหรับ 4 ที่ค่ะ

  • น้ำตาลทราย 70 กรัม
  • น้ำสะอาด 1 ชต.
  • พิมพ์กลมเล็ก 4 พิมพ์
  • เนยสำหรับทาพิมพ์

อุ่นเตาอบไว้ที่ 180ซี ทาเนยบางๆ ที่พิมพ์ให้ทั่ว เทน้ำตาลทรายกับน้ำใส่หม้อ นำขึ้นตั้งไฟกลางค่อนข้างแรง คนเรื่อยๆ จนน้ำตาลละลายหมดก็หยุดคน ต้มต่อไปจนน้ำตาลเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลอ่อน ปิดเตาทันทีแล้วคนตลอดเวลาประมาณ 10 วินาที แล้วเทน้ำตาลคาราเมลใส่พิมพ์ทันทีค่ะ

ส่วนผสมคัสตาร์ด

  • ไข่แดง 2 ฟอง
  • ไข่ไก่ 2 ฟอง
  • น้ำตาลทราย 40 กรัม
  • นมไขมันเต็ม (whole milk) 325 มล.
  • วานิลา 1 ฝัก (ถ้าหาไม่ได้ก็ใช้กลิ่นวานิลาสัก 1 ชช. แทนค่ะ)

เทนมใส่หม้อ ฝักวานิลากรีดตามยาว แล้วขูดเนื้อออกมา แล้วใส่ทั้งฝักและเนื้อวานิลาในหม้อนม นำขึ้นตั้งไฟกลางค่อนข้างอ่อน พอเดือดก็ปิดไฟค่ะ

ระหว่างนั้นตีไข่แดง ไข่ไก่ และน้ำตาลทรายเข้าด้วยกันด้วยตะกร้อมือ แล้วค่อยๆ เทนมร้อนๆ ใส่ทีละน้อย ตอนเทก็คนตลอดเวลาด้วยนะคะ คนส่วนผสมให้เข้ากันดี แล้วนำไปกรองในผ้าขาวบางหรือกระชอนตาถี่ๆ เพื่อให้เนื้อคัสตาร์ดออกมาเนียนนิ๊งค่ะ

เทส่วนผสมใส่พิมพ์จนเกือบเต็ม แล้ววางพิมพ์ในถาดอบที่มีขอบสูง เติมน้ำร้อนลงไปในถาดให้สูงประมาณครึ่งหนึ่งของพิมพ์คัสตาร์ด นำเข้าอบประมาณ 30 นาที จนคัสตาร์ดเซ็ตตัวดีค่ะ

นำคาราเมลคัสตาร์ดออกมาจากเตาอบ วางพิมพ์บนตะแกรงหรือในถาดที่ใส่น้ำเย็นจนกว่าจะเย็นอุณหภูมิห้อง แล้วก็นำไปแช่ตู้เย็นอย่างน้อย 6 ชม. พอจะเสิร์ฟก็ใช้มีดปลายแหลมกรีดขอบพิมพ์ ก่อนคว่ำลงบนจานเสิร์ฟค่ะ

Tuesday, April 21, 2009

บัตเตอร์มิลค์วาฟเฟิล : buttermilk waffle

วาฟเฟิลสูตรนี้นุ่มอร่อยดีค่ะ ยิ่งตอนอบเสร็จใหม่ๆ ยังอุ่นๆ อยู่เนี่ย อื้อม์...กินหลายๆ อันติดกันแบบหยุดไม่ได้เลยค่ะ วิธีทำก็ง่ายๆ ตามมาดูกันเลยค่ะ

ส่วนผสม
1. บัตเตอร์มิลค์ 200 มล
2. แป้งอเนกฯ 220 กรัม
3. น้ำตาลทราย 1/4 ถ้วย
4. ไข่ไก่ 2 ฟอง
5. น้ำร้อน 1 ชต.
6. น้ำมันพืช 1/4 ถ.
7. เกลือ 1/4 ชช.
8. ผงฟู 1 ชช.
9. ผิวมะนาว 1 ชช. (ไม่ใส่ก็ได้ค่ะ)
10. น้ำมะนาว 1 ชช.
11. แอ๊ปเปิ้ล, ลูกเกด, บลูเบอรี่, ราสเบอรี่ อะไรก็ได้ตามชอบค่ะ
13. น้ำตาลทราย/ไอซิ่ง + อบเชยป่น ผสมกันไว้โรยหน้า

วิธีทำ เตรียมส่วนผสมครบแล้วเรามาลงมือกันเลยค่ะ

ปอกเปลือกแอ๊ปเปิ้ลและขูดเป็นฝอยๆ แล้วใส่น้ำมะนาว 1 ชช. ลงไปคนให้เข้ากันค่ะ บรรดาเบอรี่ก็ล้างให้สะอาด สะเด็ดน้ำพักไว้ ร่อน แป้งกับผงฟูรวมกัน 2 ครั้ง แล้วใส่เกลือและน้ำตาลทรายลงไปผสม ใช้ตะกร้อมือคนให้เข้ากันดี พักไว้ก่อนค่ะ ส่วนบัตเตอร์มิลค์ + น้ำมันพืช + ผิวมะนาวผสมรวมกันไว้ค่ะ

ตอกไข่ใส่ชามอ่างที่จะใช้ตี นำอ่างอีกใบที่เล็กกว่าใส่น้ำร้อนมารองใต้อ่างไข่ เริ่มตีไข่ด้วยความเร็วต่ำ ใส่น้ำร้อน 1 ชต. ลงไปด้วยค่ะ ตีจนไข่ฟูดีก็เปลี่ยนเป็นความเร็วสูงสุดตีต่อจนไข่มีลักษณะข้นสีขาวนวลค่ะ อ้อ.. ตอนนี้อย่าลืม อุ่นเตาวาฟเฟิลไว้ด้วยนะคะ

ค่อยๆ เทส่วนผสมน้ำมันพืชลงไปในอ่างไข่ ลดความเร็วต่ำสุดตีแค่พอเข้ากันแล้วตามด้วยส่วนผสมแป้ง ตะล่อมเบาๆ พอเข้ากันอีก เหมือนกันค่ะ สุดท้ายใส่แอ๊ปเปิ้ล/ลูกเกด/เบอรี่ลงไปผสม พอเตาร้อนได้ที่ก็อบได้เลยค่ะ อบสุกแล้วโรยด้วยน้ำตาลทันทีค่ะ


ทอดมันหมู : deep fried ground pork cake

วันนี้ไม่รู้ทำไมเกิดนึกอยากกินทอดมันปลากรายขึ้นมาติดหมัด แต่ๆๆๆ ไม่มีปลาติดตู้เย็นเลยสิ ทำไงดีล่ะเนี่ย ขี้เกียจออกไปซื้อด้วย เลยเปลี่ยนใจจากทอดมันปลากรายมาเป็นทอดมันหมูแทน ออกมาอร่อยใช้ได้ค่ะ


เครื่องปรุง โดยประมาณนะคะ
1. หมูสับ 250 กรัม
2. พริกแกงแดง 1 ชต.
3. น้ำปลา 1 ชต.
4. น้ำตาลทราย 1/2 ชช.
5. แป้งข้าวโพด 1 ชต.
6. ถั่วผักยาว 2 ฝัก
7. ใบมะกรูด 2 ใบ
8. น้ำมันพืชสำหรับทอด

วิธีทำ

ถั่วฝักยาวล้างให้สะอาดแล้วหั่นเป็นวงบางๆ ส่วนใบมะกรูดล้างแล้วหั่นฝอยค่ะ จากนั้นใส่ส่วนผสมทุกอย่างในชามผสมแล้วนวดให้เข้ากันและส่วนผสมเนียนเหนียว ดีค่ะ เสร็จแล้วเรานำไปแช่ตู้เย็นไว้ 30 นาที (อันนี้แล้วแต่นะคะ จะทอดเลยก็ได้)

เมื่อถึงเวลาทอดนำส่วนผสมออกมาจากตู้เย็น ล้างมือให้สะอาดแล้วก็ปั้นส่วนผสมเป็นก้อนกลมๆ แล้วกดให้แบน นำลงทอดไฟกลางน้ำมันร้อนจนสุกเหลืองทั้งสองด้าน แล้วตักขึ้นวางบนกระดาษทิชชูเพื่อซับน้ำมัน แค่นี้ก็เรียบร้อย เสิร์ฟคู่กับน้ำจิ้มอาจาดอร่อยๆ ค่ะ

น้ำจิ้มอาจาด
1. น้ำส้มสายชู 2 ชต.
2. น้ำตาลทราย 1 ชต.
3. เกลือ 1 1/2 ชช.
4. พริกขี้หนู 1 เม็ด
5. แตงกวา
6. ถั่วลิสงคั่วสับหยาบ 1 ชต.

วิธีทำ

หั่นพริกชี้ฟ้าเป็นวงบางๆ ใส่ส่วนแตงกวาหั่นชิ้นบางๆ ใส่น้ำส้มสายชู น้ำตาลทราย และเกลือลงในหม้อใบเล็ก นำขึ้นตั้งไฟจนน้ำตาลและเกลือละลายหมด ยกลงเทใส่ถ้วยแล้วพักไว้ให้เย็น แล้วใส่พริกชี้ฟ้า ถั่วลิสง และแตงกวาลงไป คนพอเข้ากันค่ะ

Monday, April 20, 2009

โดนัท : doughnut

 
ส่วนผสม สำหรับโดนัทประมาณ 10 ชิ้น
  • ยีสต์สด 15 กรัม (ยีสต์แห้ง 8 กรัม)
  • นมอุ่น 100 กรัม
  • แป้งอเนกประสงค์ 200 กรัม
  • น้ำตาลทราย 30 กรัม
  • ไข่แดงขนาดใหญ่ 1 ฟอง
  • กลิ่นวานิลาบัทเทอร์ 1/2 ชช.
  • เนยสด 15 กรัม
  • เนยขาว 15 กรัม
  • เกลือป่น 1/4 ชช.
วิธีทำ  ภาพวิธีทำคลิกที่นี่ค่ะ --> วิธีนวดแป้งด้วยเครื่อง ทำรูปร่าง และทอดโดนัท
 

ถ้าใครนวดมือและใช้ยีสต์แห้งก็ทำตามนี้นะคะ ทดสอบยีสต์โดยเทยีสต์ใส่นมอุ่น เติมน้ำตาลทราย 1 หยิบมือลงไปคนให้เข้ากัน แล้วพักไว้ในที่อุ่นประมาณ 10 นาที หรือจนกว่ายีสต์จะขึ้นฟูดีค่ะ เทแป้งใส่อ่างผสม ทำบ่อตรงกลาง ใส่น้ำตาลทราย ไข่แดง กลิ่นวานิลา ผิวมะนาว และยีสต์ที่หมักจนขึ้นฟูแล้วลงไปในบ่อแป้ง ใช้เครื่องตีมือถือหัวเกลียวตีส่วนผสมให้เข้ากันด้วยความเร็วต่ำ 2 นาที แล้วคลุมผ้าพักไว้ในที่อุ่นประมาณ 15 นาทีให้ยีสต์ทำงานค่ะ

ใส่เนยสด เนยขาว และเกลือลงไปในอ่างแป้ง นวดจนแป้งยืดหยุ่นเนียนมือดีและแป้งหลุดจากขอบอ่างได้ง่าย
รวบเป็นก้อนกลม คลุมผ้าพักไว้ในที่อุ่นประมาณ 30 นาทีจนแป้งขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ขึ้นอยู่กับอากาศด้วยค่ะ ถ้าใครอยู่เมืองหนาว ยังไงก็นำอ่างแป้งไปวางไว้บนฮีตเตอร์ หรือเทนมอุ่นใส่อ่างใบเล็กๆ อีกใบแล้วนำอ่างแป้งวางบนอ่างน้ำอุ่นก็ได้ค่ะ แป้งจะได้ขึ้นเร็วๆ

เมื่อแป้งขึ้นดีแล้วก็นำมาคลึงให้ทั่วเพื่อไล่ลม แล้วจัดการคลึงแป้งเป็นแผ่นหนาประมาณ 1 ซม. ใช้ที่ตัดโดนัทหรือแก้วขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 8 ซม. ตัดลงบนแผ่นแป้ง โดยพยายามตัดแป้งให้ติด ๆ กัน เพื่อให้ได้ปริมาณเยอะ ๆ เศษ ๆ แป้งที่เหลือก็จับมาคลึงแล้วตัดใหม่ หรือจะปั้นเป็นก้อนกลมแล้วกดให้แบน ใช้ฝาขวดพลาสติกตัดตรงกลางทำเป็นโดนัทมีรูก็ได้ค่ะ แป้งที่ตัดได้ให้วางไว้บนผ้าสะอาดที่โรยแป้งบางๆ ไว้แล้ว ใช้พลาสติกใสหรือผ้าคลุมแป้งไว้ด้วยนะคะ พักแป้งอีกประมาณ 30-45 นาที จนแป้งที่ตัดไว้มีผิวเรียบตึงค่ะ

พอเห็นว่าแป้งขึ้น ผิวหน้าเรียบตึงดีแล้ว นำเนยขาวมาละลายเตรียมตัวลุ้นระทึกกับการทอดได้แล้วค่ะ ใส่เนยขาวลงไปในหม้อสำหรับทอด น้ำมันควรใช้เยอะหน่อยนะคะ ให้สูงจากก้นหม้ออย่างน้อย 2 ซม. ค่ะ ใช้หม้อใบเล็กๆ ก็พอค่ะจะได้ไม่เปลืองน้ำมัน เพราะเราจะทอดแค่ครั้งละอันเท่านั้น นำหม้อตั้งไฟกลาง พอเนยละลายหมดก็ลดไฟลงเหลือไฟกลางค่อนข้างอ่อนค่ะ จากนั้นนำเจ้าลูกเล็กๆ เศษของแป้งส่วนที่เหลือนำไปทอดทดสอบน้ำมันดูค่ะ ถ้านำแป้งลงทอดแล้วน้ำมันฟู่รอบๆ แป้ง ผิวโดนัทไม่เข้มเร็วจนเกินไปแสดงว่าใช้ได้ค่ะ เวลาที่ใช้ทอดโดนัทในแต่ละด้านไม่เกิน 1 นาทีนะคะ ถ้าใช้ไฟอ่อนเกินไปก็จะอมน้ำมัน ถ้าไฟแรงเกินผิวข้างนอกจะไหม้ แต่ข้างในจะไม่สุกค่ะ



ส่วนผสมท็อปปิ้ง
 
สีขาว ละลายเนยสดและนมรวมกันในไมโครเวฟ แล้วใส่น้ำตาลไอซิ่งและกลิ่นวานิลาลงไป คนให้เนียนและน้ำตาลละลายหมดค่ะ 
  • น้ำตาลไอซิ่ง 1/2 ถ.
  • เนยสด 1 1/2 ชต.
  • นม 2 ชต. 
  • กลิ่นวานิลลา 1/4 ชช.
สีชมพู ส่วนผสมเหมือนข้อ 1. แต่ตัดเนยสดออกไป และใส่น้ำหวานสีแดงลงไปประมาณ 1 ชช. คนให้เข้ากันค่ะ

ช็อคโกแล็ต นำช็อคโกแล็ตผสมกับเนยสดเล็กน้อยไปละลายในไมโครเวฟ นำหน้าโดนัทที่ทอดแล้วไปชุบแล้วโรยด้วยถั่วที่อบจนหอมแล้วค่ะ






Friday, April 17, 2009

ผัดเขียวหวานไก่ทอด


มีใครเบื่อแกงเขียวหวานบ้างรึเปล่าคะ หากเบื่ออะไรที่เป็นน้ำๆ ลองเปลี่ยนมาทำแบบผัดแทนก็ไม่เลวนะคะ ส่วนเนื้อสัตว์หากใครไม่ชอบไก่ทอด ไก่ย่าง ก็เปลี่ยนเป็นลูกชิ้นปลากราย กระดูกหมู หรือเนื้อวัวแทนได้ค่ะ


เครื่องปรุงโดยประมาณ 
  • น่องไก่ติดสะโพก 2 ชิ้น 
  • กะทิ 1/2 ถ้วย
  • พริกแกงเขียวหวาน 2 ชต.
  • น้ำตาลปี๊บ 1 ชช.
  • น้ำปลา 1 - 1 1/2 ชต.
  • มะเขือเปาะ 2 ลูก
  • โหระพา 1/2 ถ้วย
  • พริกชี้ฟ้าแดง 3-4 เม็ด
  • น้ำมันพืชสำหรับทอดไก่
ส่วนผสมพริกแกงเขียวหวาน 
  • พริกขี้หนู 10 เม็ด 
  • พริกชี้ฟ้าสีเขียว 5 เม็ด
  • หอมแดง 2 หัว
  • กระเทียม 4-5 กลีบ
  • ข่า 3-4 แผ่น
  • ตะไคร้ 1 ต้น
  • ผิวมะกรูด 1/2 ชช.
  • รากผักชี 1 ราก
  • พริกไทยเม็ด 3 เม็ด
  • ลูกผักชีคั่วป่น 1/2 ชต.
  • ยี่หร่าคั่วป่น 1/2 ชช.
  • กะปิ 1/4 ชช.
  • เกลือ 1/2 ชช.
วิธีทำพริกแกงเขียวหวาน โขลกเครื่องแกงทั้งหมดรวมกันให้ละเอียด

วิธีทำผัดเขียวหวาน 

นำไก่มาเลาะหนังและกระดูกออกให้หมด หั่นเป็นชิ้นโตๆ แล้วโรยเกลือ พริกไทย และน้ำตาลทรายอย่างละหยิบมือ คลุกให้เข้ากัน นำกระทะ ตั้งไฟ ใส่น้ำมันพืชลงไป พอน้ำมันร้อนนำไก่ลงทอดให้สีเหลืองสวย แล้วตักขึ้นค่ะ

นำกระทะอีกใบตั้งไฟ ใส่กะทิลงไปเคี่ยวให้แตกมัน ใส่พริกแกงลงไปผัดจนส่งกลิ่นหอม ใส่น้ำตาลปี๊บ และน้ำปลาลงไป คนให้เข้ากัน แล้วใส่มะเขือเปาะและไก่ทอดลงผัดประมาณ 2 นาที ชิมรสตามชอบ

สุดท้ายใส่พริกชี้ฟ้าแดงหั่นเฉียงและโหระพาลงไป ผัด 2-3 ครั้งก็ปิดไฟ ตักเสิร์ฟได้เลยค่ะ กินกับข้าวสวยร้อนๆ ลำแต้ๆ เจ้า อ้อ..รูปล่างนี้เราใช้ไก่ย่างแทนไก่ทอดนะคะ อร่อยเหมือนกันค่ะ

Thursday, April 16, 2009

ยำปลาหมึก กุ้ง ปลา คะน้ากรอบ

นี่เป็นหนึ่งในอาหารจานโปรดของเราค่ะ ชอบทานมากๆ ทำบ่อยด้วย (ถ้าหาคะน้าใบโตๆ แก่ๆ ได้น่ะนะคะ) มาดูส่วนผสมกันค่ะ

เครื่องปรุง

1. ใบคะน้า (ใช้ที่ใบโตๆ และแก่หน่อยนะคะ) 6-7 ใบ
2. หอมแดง 3 หัว
3. ถั่วลิสงคั่ว 20 กรัม
4. ปลาหมึกกล้วย 4 ตัว
5. กุ้ง 8 ตัว
6. เนื้อปลากระพง 1 ซีก
7. ลูกชิ้นปลา 6-7 ลูก
8. น้ำมันพืช สำหรับทอดใบคะน้าและหอมแดง
9. ใบมะกรูด ซอยละเอียด 2 ใบ

วิธีทำ

ใบคะน้าล้างให้สะอาด ซับน้ำให้แห้ง แล้วแบ่งเป็น 2 ซีก หั่นหยาบๆ แล้วฝึ่งให้แห้งสนิท หัวหอมแดงปอกเปลือก แล้วซอยบางๆ ตามยาว เมื่อใบคะน้าแห้งดีแล้ว นำไปทอดในน้ำมันเยอะๆ ให้ฟูกรอบ ตักขึ้นวางบนกระดาษซับน้ำมัน จากนั้นนำหอมแดงลงเจียว ให้กรอบค่ะ

ปลาหมึกลอกเยื่อออกให้หมดแล้วล้างให้สะอาด บั้งเป็นตารางแล้วหั่นเป็นชิ้นสี่เหลี่ยม เสร็จแล้วนำไปแช่น้ำเย็นที่บีบมะนาวทิ้งไว้ ส่วนปลากระพงหั่นชิ้นบางๆ กุ้งปอกเปลือก ไว้หาง และผ่าหลังเอาเส้นดำออก ลูกชิ้นปลาหั่นบางๆ นำหม้อ ใส่น้ำตั้งไฟ พอเดือดนำลูกชิ้น ปลาหมึก ปลากระพง และกุ้งลงลวกให้สุก จากนั้นก็ไปทำน้ำยำกันค่ะ

เครื่องปรุงน้ำยำ

1. นมสด 1/4 ถ้วย
2. น้ำพริกเผา 2 ชต.
3. น้ำตาลทราย 2 ชต.
4. น้ำมะนาว 4 ชต.
5. น้ำปลา 1-2 ชต.
6. เกลือ 1/2 ชช.
7. พริกขี้หนู ซอยละเอียด 6-7 เม็ด

วิธีทำ

นำนมสด น้ำพริกเผา น้ำตาลทราย น้ำมะนาว น้ำปลา และเกลือป่นใส่ลงในหม้อ คนให้เข้ากัน ชิมรสตามชอบ แล้วนำขึ้นตั้งไฟอ่อน พอเดือดยกลง ใส่พริกขี้หนูลงไปคนให้เข้ากันค่ะ วางคะน้าทอดกรอบลงบนจานเสิร์ฟ ตามด้วยปลาหมึก กุ้ง ปลา และลูกชิ้นปลา ราดด้วยน้ำยำ โรยถั่่วลิสงคั่ว หอมแดงเจียว และใบมะกรูด ได้อร่อยแล้วค่า


หอยแมลงภู่ - กุ้ง ผัดน้ำพริกเผา

ปกติจะทำกุ้งผัดน้ำพริกเผา ไก่ผัดน้ำพริกเผาหรือปลาหมึกผัดน้ำพริกเผากินกัน แต่วันนี้อยากเปลี่ยนรสชาติบ้างก็เลยกลายมาเป็นหอยแมลงภู่ผัดน้ำพริกเผาจานนี้เนี่ยล่ะค่ะ แต่จะใช้หอยแมลงภู่อย่างเดียวเลยก็จะผิดปกติวิสัยของคนบร้ากุ้งอย่างเรา ยังไงก็ขอน้องกุ้งแจมนิดนะพี่หอยฯ นะ

เครื่องปรุงโดยประมาณ สำหรับรับประทาน 2 คน

  • หอยแมลงภู่ 6-7 ตัว
  • กุ้ง 4 ตัว
  • น้ำเปล่า 150 มล.
  • น้ำพริกเผา 1 1/2 ชต.
  • น้ำปลา 1 ชต.
  • น้ำมันหอย 1 ชต.
  • น้ำมันพืช 2 ชต.
  • น้ำซุป 3 ชต.
  • หอมหัวใหญ่ 1 หัว
  • ต้นหอม 2 ต้น
  • คื่นช่าย 1-2 ต้น
  • เห็ดฟาง 4-5 ดอก
  • พริกชี้ฟ้าแดง 5 เม็ด
  • กระเทียมกลีบใหญ่ 2 กลีบ
วิธีทำ
นำหอยแมลงภู่มาขัด ๆ ขูด ๆ สิ่งสกปรกที่เปลือกออกแล้วล้างให้สะอาด เทน้ำเย็นใส่ชามอ่าง ใส่เกลือประมาณ 1/2 ชช. ลงไปในน้ำ แล้วนำหอยแมลงภู่ลงแช่ในอ่างประมาณ 10 นาที เพื่อให้หอยคายเศษดินออกมา จากนั้นเทน้ำใส่หม้อตั้งไฟต้มพอเดือด ใส่หอยลงไปต้มประมาณ 5-7 นาที แล้วแกะเปลือกบนทิ้งไปค่ะ ส่วนกุ้งแกะเปลือกไว้หาง ผ่ากลางหลังดึงเส้นดำออกค่ะ

หอมหัวใหญ่ปอกเปลือกหั่นตามยาว กระเทียมปอกเปลือกหั่นบางๆ หรือบุบพอแตก ต้นหอมล้างให้สะอาดแล้วหั่นเป็นท่อนๆ คื่นช่ายล้างให้สะอาดหั่นท่อน เช็ดเห็ดให้สะอาดก่อนล้างและผ่าสี่ พริกชี้ฟ้าหั่นเฉียงตามยาว ส่วนน้ำพริกเผา น้ำมันหอยและน้ำปลาผสมกันไว้ค่ะ

นำกระทะตั้งไฟกลาง ใส่น้ำมันลงไป พอน้ำมันร้อนใส่กระเทียมและหอมหัวใหญ่ลงเจียวพอส่งกลิ่นหอม ใส่ส่วนผสมน้ำพริกเผาผัดพอน้ำพริกเผาไม่จับกันเป็นก้อน เติมน้ำซุป ใส่หอยแมลงภู่ กุ้ง เห็ด และพริกชี้ฟ้าแดงลงผัดพอกุ้งสุก ชิมรสตามชอบ สุดท้ายใส่ต้นหอม และคื่นช่ายคน 2-3 ครั้ง ปิดไฟ ตักใส่จานเสิร์ฟร้อนๆ ค่ะ

Wednesday, April 15, 2009

บะหมี่อบหม้อดิน

หลังจากที่ทำกุ้งอบวุ้นเส้นกินบ่อย บ๊อย บ่อย จนคนที่บ้านเริ่มเบือนหน้าหนีแล้ว แต่ตัวเราที่เป็นคนทำไม่ยักกะเบื่อ ก็เลยต้องเปลี่ยน กลยุทธ์ซะใหม่ โดยการใช้หมี่โกเร้งและอกไก่แทนวุ้นเส้นและกุ้ง พอถึงเวลาเสิร์ฟก็ใจเต้นตุ๋มๆ ต่อมๆ ตอนที่รอฟังคำ พิพากษาของศาล ปรากฏว่าเธอชอบค่ะ กินซะเกลี้ยงเลย เหอๆ เราก็ว่าใช้บะหมี่นี่อร่อยกว่าวุ้นเส้นอีกค่ะ เส้นหมี่เหนี่ยวๆ นุ่มๆ อืมม์... อร่อย

ส่วนผสมโดยประมาณ
1. บะหมี่โกเร้ง หรือบะหมี่เหลือง 150 กรัม
2. อกไก่ 1 ชิ้น
3. หมูสามชั้น 1 เส้น
4. เห็ดหอม 3 ดอก
5. ต้นหอม 3 ต้น
6. กระเทียมกลีบใหญ่ 3 กลีบ
7. ขิง 3-4 แผ่น
8. รากผักชี 2 ราก
9. พริกไทย 10 เม็ด
10. น้ำมันพืช 1 ชต.
11. กวางตุ้ง 2 ต้น

ซอสปรุงรส
1. น้ำมันหอย 1-2 ชต.
2. ซีอิ้วขาว 1 ชต.
3. เหล้าจีน 1 ชต.
4. น้ำมันงา 1 ชช.
5. น้ำซุปไก่ 1/3 ถ.
6. น้ำตาลทราย 1/2 ชต.
7. ซีอิ้วดำ 1/2 ชต.< ผสมทุกอย่างรวมกันไว้ในถ้วย คนให้เข้ากัน ชิมรสตามชอบแล้วพักไว้ก่อนค่ะ วิธีทำ เริ่มด้วยการเตรียมเครื่องให้พร้อมก่อนนะคะ
- บะหมี่แช่น้ำเย็นประมาณ 10 นาที หรือจนกว่าเส้นจะนิ่ม แล้วสะเด็ดน้ำพักไว้
- เห็ดหอมแช่น้ำให้นิ่ม
- ต้นหอมหั่นท่อน
- กระเทียมปอกเปลือก หั่นครึ่ง
- รากผักชีล้างให้สะอาด
- พริกไทยบดหยาบ
- อกไก่หั่นชิ้นบางๆ
- หมูสามชั้นหั่นชิ้นพอคำ

นำกระทะตั้งไฟกลาง ใส่น้ำมันพืชลงไป พอน้ำมันร้อนใส่เห็ดหอม กระเทียม ขิง รากผักชี และพริกไทยลงผัด พอส่งกลิ่นหอมก็ใส่ต้นหอมผัดพอสลดก็ปิดไฟค่ะ จากนั้นก็นำหมูสามชั้นจุ่มในน้ำซอสปรุงรส ก่อนวางเรียงกันในหม้อดินหรือหม้อที่จะใช้อบ จากนั้นก็จุ่มอกไก่ในน้ำซอสปรุงรส แล้ววางทับบนหมูสามชั้น ตามด้วยผักที่ผัดไว้

บะหมี่ที่แช่น้ำไว้จนนิ่มแล้ว นำมาคลุกกับน้ำปรุงให้เข้ากัน แล้วจึงใส่บะหมี่ลงในหม้อดิน เทน้ำปรุงรสที่เหลือตามลงไปด้วยนะคะ เสร็จแล้วก็นำหม้อตั้งไฟอ่อนสุด ปิดฝาอบประมาณ 20 นาที เมื่อเห็นว่าใกล้สุกก็นำผักกวางตุ้งมาหั่นแล้ววางบนเส้นบะหมี่ อบต่อจนสุกก็ปิดไฟ เรียบร้อยแล้วจ้า เสิร์ฟร้อนๆ อร่อยเชียวค่ะ

ข้าวต้มกุ้งปลาหมึก


วันนี้ตื่นสายกว่าปกติค่ะ ตื่นขึ้นมาก็หิวมากๆ เดินเข้าครัวก็ไม่มีอะไรกิน เลยต้องทำอะไรที่มันไม่ยุ่งยากมาก ก็ได้นี่เลยค่ะ ข้าวต้มกุ้งปลาหมึกแสนอร่อย เครื่องปรุงก็มีไม่มากค่ะ ตามนี้เลย

1. ข้าวสวย
2. น้ำซุป
3. กุ้ง ปลาหมึก
4. กระเทียมเจียว
5. น้ำส้มพริกดอง
6. น้ำปลา ซีอิ้วขาว
7. น้ำตาล
8. ตั้งฉ่าย
9. ต้นหอม ผักชี ไว้โรยหน้าค่ะ

วิธีทำ

ต้มข้าวสวยกับน้ำซุปจนเดือดประมาณ 5 นาที ใส่น้ำปลา ซีอิ้วขาว น้ำตาล ตั้งฉ่าย น้ำส้มสายชู ปลาหมึกและกุ้ง ลดไฟกลางต้มต่ออีกสัก 5 นาที ใส่กระเทียมเจียว ชิมรสตามชอบ ตักเสิร์ฟแล้วโรยหน้าด้วยต้นหอม ผักชีค่ะ

ข้าวทอด - แหนมคลุก


ส่วนผสมข้าวทอด (โดยประมาณ)
1. ข้าวสวย 1 1/2 ถ.
2. หมูสับ 70 กรัม
3. พริกแกงแดง 1 ชต.
4. มะพร้าวอบแห้ง 2 ชต.
5. ไข่ 1 ฟอง (แยกขาว-แดง)
6. เกลือ พริกไทย
7. ขนมปังป่น
8. น้ำมันสำหรับทอด

วิธีทำ

นำส่วนผสมข้อ 1-4 ใส่ชามผสม เติมเกลือและบดพริกไทยใส่นิดหน่อย นวดพอเข้ากันแล้วใส่ไข่แดงลงไปนวดให้เข้ากัน อีกครั้งแล้วปั้นเป็นลูกกลมๆ ขนาดเท่าลูกปิงปอง

เมื่อปั้นเสร็จแล้วนำข้าวปั้นไปชุบไข่ขาวแล้วคลุกขนมปังป่น ก่อนนำไปทอดไฟกลางจนสุกเหลือง ตักขึ้นวางบนกระดาษ เพื่อซับน้ำมัน

ส่วนผสมแหนมสด (โดยประมาณ)
1. หมูสับ 150 กรัม
2. หนังหมูหั่นเส้นบางๆ 30 กรัม
3. หอมแดงซอย 2-3 หัว
4. ขิง 5 แผ่น
5. น้ำมะนาว เกลือ
6. ถั่วลิสงคั่ว พริกแห้งทอด
7. ผักตามชอบ เช่น ผักกาดขาว ใบสะระแหน่ ต้นหอม แตงกวา มะเขือเทศฯลฯ

วิธีทำ

นำหมูสับกับหนังหมูใส่หม้อตั้งไฟกลางค่อนข้างอ่อน รวนจนสุกโดยใช้ทัพพีบดหมูสับไปด้วย เพื่อไม่ให้จับตัวกันเป็นก้อน เมื่อหมูสุกแล้วเหยาะเกลือและน้ำมะนาวลงไปนิดหน่อย คนให้เข้ากัน ปิดไฟค่ะ

นำข้าวที่ทอดไว้บิเป็นชิ้นขนาดเล็กใหญ่ใหญ่ตามชอบใส่ชามผสม ใ่ส่แหนมสด หอมแดงซอย ขิงซอยละเอียด 2-3 แผ่นลงไป ปรุงรสด้วยน้ำมะนาว น้ำปลา ชิมรสตามชอบ แล้วใส่ถั่วลิสงคั่ว พริกแห้งทอด คลุกพอเข้ากัน ตักใส่จานเสิร์ฟพร้อมผักตามชอบ

ข้าวผัดกุ้ง-ปูอัด


ข้าวผัด ผัดข้าว อาหารจานเดียวที่ถูกปากถูกใจคนทุกเพศทุกวัย วันนี้ที่บ้านเลือกทำข้าวผัดกุ้งใส่ปูอัดเป็นอาหารมื้อเที่ยงค่ะ เห็นมีข้าวเหลือติดหม้ออยู่ก็เลยไม่รีรอที่จะลงมือทำข้าวผัดเพื่อประทังชีวิตกันค่ะ ปริมาณส่วนผสมที่บอกไว้ข้างล่างนี้เราให้ไว้เป็นแนวทางนะคะ เพราะตอนทำก็เหมือนทุกครั้งคือไม่ได้ตวง แต่ครั้นจะไม่บอกปริมาณไว้เลย ก็กลัวว่าเพื่อนๆ ที่เพิ่งหัดทำอาหารจะกะไม่ถูกน่ะค่ะ ยังไงตอนปรุงรสก็เบาๆ มือ ค่อยๆ ชิมรสตามชอบนะคะ


เครื่องปรุงโดยประมาณ สำหรับรับประทาน 2 คน

  • ข้าวสวย 1 ถ้วย
  • กุ้งสด 4-5 ตัว
  • ปูอัด 6 แท่ง
  • แครอท 1/2 หัว
  • กระเทียม 2 กลีบ
  • หอมหัวใหญ่ 1/2 หัว
  • ไข่ไก่ 1 ฟอง
  • น้ำมันพืช 1-2 ชต.
  • น้ำปลา 1/2 ชต.
  • น้ำมันหอย 1/2 ชต.
  • ซีอิ้วขาว 1 ชช.
  • ซอสพริก 1 ชต.
  • น้ำตาลทราย 1/4 ชช.
  • เกลือ พริกไทยดำป่น
  • ต้นหอม มะนาว
วิธีทำ
  • เตรียม ส่วนผสมก่อนนะคะ กุ้งสด แกะเปลือกไว้หาง ผ่าหลังแล้วดึงเส้นดำทิ้งไปค่ะ ส่วนปูอัดก็หั่นท่อนสั้นๆ แครอทปอกเปลือกแล้วหั่นเต๋า เล็กๆ กระเทียมปอกเปลือก สับละเอียด หอมหัวใหญ่ปอกเปลือก หั่นเส้นหรือจะหั่นเต๋าเล็กเหมือนเราก็ได้ค่ะ ต้นหอมก็หั่นท่อนสั้นๆ ค่ะ

  • นำกระทะตั้งไฟ ใส่น้ำมันพืชลงไป พอน้ำมันร้อนใส่หอมหัวใหญ่ กระเทียม และแครอทลงไปผัดสักครู่ ใส่ปูอัดและกุ้งลงไปผัดรวมกันจนกุ้ง เปลี่ยนสี แล้วจึงใส่น้ำปลา น้ำมันหอย ซีอิ้วขาว ซอสพริก และน้ำตาลทรายลงไปผัดให้เข้ากัน

  • เร่งไฟแรงสุด ใส่ข้าวสวยลงไปผัดจนหอม พยายามบี้ปูอัดให้แตกด้วยค่ะ เกลี่ยข้าวไปไว้ข้างกระทะ ตอกไข่ลงไปในกระทะ แล้วใช้ตะหลิว ขยี้ไข่ให้แตกและไข่เป็นวุ้นใกล้สุก เกลี่ยข้าวมากลบไข่แล้วผัดให้เข้ากัน ปรุงรสเพิ่มด้วยเกลือและพริกไทยป่น ชิมรสตามชอบ แล้วใส่ ต้นหอม คน 2-3 ครั้ง ปิดไฟค่ะ

  • ตักข้าวใส่จานเิสิร์ฟ แล้วแต่งหน้าด้วยต้นหอมหั่นท่อน วางมะนาวที่หั่นเสี้ยวไว้ ตามด้วยแตงกวาและมะเขือเทศ ก่อนทานก็บีบมะนาวลงไป ดูง่ายๆ แต่อร่อยค่ะ

ข้าวหน้าไก่


ข้าวหน้าไก่อาหารจานเดียวหนึ่งในของโปรดของคุณพ่อบ้านค่ะ จะว่าไปเราก็ชอบนะเพราะอร่อยและทำง่ายด้วย กินกับพริกน้ำปลาอร่อยอย่าบอกใครเลย

เครื่องปรุงโดยประมาณ (โดยประมาณจริงๆ นะคะ ตอนทำไม่ได้ตวงค่ะ) สำหรับรับประทาน 2 คน

  • อกไก่ 1 ชิ้น
  • น้ำมันงา 1 ชช.
  • ซีอิ้วขาว 2 ชต.
  • น้ำมันหอย 1 ชต.
  • ซีอิ้วดำ 1/2 ชต.
  • นมสด 2 ชต.
  • น้ำตาลทรายแดง 1/2 ชช.
  • กระเทียมกลีบเล็ก 3 กลีบ
  • พริกไทยเม็ด 8-10 เม็ด
  • รากผักชี 1 ราก
  • หอมหัวใหญ่ 1/2 หัว
  • เห็ดแชมปิยอง 3 ดอก
  • น้ำมันพืช 2 ชต.
  • น้ำปลา 1 ชต.
  • น้ำซุปไก่ 1/2 ถ.
  • แป้งมัน 1 ชต.
วิธีทำ
  • อกไก่ล้างให้สะอาด หั่นเป็นชิ้นพอคำแล้วหมักกับน้ำมันงา ซีอิ้วขาว น้ำมันหอย ซีอิ้วดำ นมสด และน้ำตาลทรายแดงไว้อย่างน้อย 30 นาที

  • โขลกกระเทียม พริกไทยเม็ด และรากผักชีเข้าด้วยกัน หอมหัวใหญ่ปอกเปลือกหั่นเป็นเส้นตามขวาง เห็ดแชมปิยองเช็ดให้สะอาดก่อนล้าง แล้วหั่นเป็นชิ้นบางๆ แป้งมันละลายน้ำไว้ด้วยค่ะ

  • นำกระทะตั้งไฟ ใส่น้ำมันพืชลงไป พอน้ำมันร้อนใส่กระเทียมพริกไทยรากผักชีลงผัดให้หอม ใส่หอมใหญ่และไก่ที่หมักไว้ลงไปผัดจนไก่ มีสีเหลืองสวย ใส่เห็ดลงไปผัดรวมกัน ใส่น้ำซุปไก่ ตามด้วยแป้งมันที่ละลายน้ำไว้แล้ว โดยระหว่างที่เทแป้งมันใส่ให้คนตลอดเวลาด้วยนะคะ ต้มให้เดือดแล้วชิมรสตามชอบ ถ้าอ่อนเค็มก็เติมน้ำปลา อ่อนหวานก็เติมน้ำตาลค่ะ เมื่อได้รสชาติที่ถูกใจแล้วก็ลดไฟลง เคี่ยวต่อไป โดยคนเป็นระยะจนน้ำเริ่มแห้งเหนียวก็ใช้ได้ค่ะ

  • ตักข้าวสวยร้อนๆ ใส่จานเสิร์ฟ ราดหน้าด้วยไก่และน้ำซอส แต่งหน้าด้วยผักชี จัดแตงกวา มะเขือเทศ หรือผักอื่นตามชอบไว้ทานเคียง เสิร์ฟคู่กับพริกน้ำปลา อร่อยไม่เลิกเลยจ้า

ข้าวคลุก(น้ำพริก)กะปิ


ข้าวคลุกกะปิเป็นอีกหนึ่งอาหารจานโปรดตอนอยู่เมืองไทยค่ะ แต่เมื่อก่อนไม่เคยทำกินเองเลย พอมาอยู่ที่นี่อยากกินก็ทำไม่เป็นอีกแฮะ แล้วอยู่มาวันนึง "น้องพิม Enya" ก็ได้สาธิตวิธีทำข้าวคลุกกะปิให้ดูที่ห้องอาหารการกิน กระทู้นั้นของน้องพิมเลยทำให้เราลุกขึ้นมาทำข้าวคลุกกะปิบ้าง เพียงแต่เปลี่ยนจากข้าวคลุกกะปิธรรมดาเป็นข้าวคลุกน้ำพริกกะปิเท่านั้นเองค่ะ ต้องขอบคุณน้องพิมมากๆ เลยนะคะ สำหรับแนวทางและแรงบันดาลใจครั้งนี้จ้า


เครื่องปรุงข้าวคลุกน้ำพริกกะปิ โดยประมาณนะคะ
1. กะปิ 2 ชต.
2. หอมแดง 1 หัว
3. กระเทียมกลีบเล็ก 3-4 กลีบ
4. กุ้งแห้งป่น 1 ชต.
5. น้ำตาลปี๊ป 2 ชต.
6. น้ำมะนาว 2 ชต.
7. น้ำปลา 1 ชต.
8. พริกขี้หนู 6-7 เม็ด
9. ใบตอง
10. ข้าวสวยหุงร้อนๆ 1 1/2 ถ้วย

วิธีทำ

นำกะปิห่อใบตองเผาไฟให้หอม พริกขี้หนูหั่นท่อนสั้นๆ หอมแดงปอกเปลือกหั่นเต๋า กระเทียมก็ปอกเปลือกออกค่ะ จากนั้นก็โขลกกะปิเผา หอมแดง และกระเทียมเข้าด้วยกันให้ละเอียด แล้วจึงใส่พริกขี้หนูและกุ้งแห้งป่นลงไปโขลกหยาบๆ ปรุงรสด้วยน้ำตาลปี๊บ น้ำมะนาว และน้ำปลา ชิมรสตามชอบ นำข้าวสวยที่หุงร้อนๆ ใส่ในอ่างผสม เทน้ำพริกกะปิลงไปคลุกเคล้าให้เข้ากัน เสร็จเรียบร้อยค่ะ

เครื่องปรุงหมูหวาน
1. หมูสามชั้น 200 กรัม
2. กระเทียมทุบหรือโขลกละเอียด 3 กลีบ
3. หอมแดงซอย 1 หัว
4. น้ำตาลปี๊ป 1 ชต.
5. น้ำปลา 1/2 ชต.
6. เกลือ 1/2 ชช.
7. ซีอิ้วดำ 1 ชช.
8. น้ำมันพืช 1 ชต.

วิธีทำ
นำหมูสามชั้นไปล้างให้สะอาดแล้วหั่นเป็นชิ้นพอคำ นำกระทะตั้งไฟ ใส่น้ำมันพืชลงไป พอน้ำมันร้อนใส่หอมแดงและกระเทียมลงเจียว พอส่งกลิ่นหอม ใส่น้ำตาลปี๊ป น้ำปลา เกลือ ซีอิ้วดำ และหมูสามชั้นลงไป ผัดจนหมูสุกก็ลดไฟอ่อนเคี่ยวจน เครื่องปรุงเข้าเนื้อหมู และ ซอสเริ่มเหนียวแห้งก็ปิดไฟค่ะ

เครื่องเคียงอื่นๆ

  • ไข่เจียว ไข่ไก่ 1 ฟอง ตีให้แตกไม่ต้องถึงกับฟูค่ะ แล้วนำกระทะตั้งไฟ ทาน้ำมันบางๆ พอกระทะร้อนก็เทไข่ลง ไปกรอกให้ทั่ว กระทะ ให้ไข่เป็นแผ่นบางๆ พอสุกแซะขึ้นแล้วหั่นเป็นเส้นๆ ค่ะ
  • กุ้งแห้งทอด กุ้งแห้งล้างให้สะอาด แล้วซับน้ำให้แห้ง นำกระทะตั้งไฟ ใส่น้ำมันพืชลงไป พอน้ำมันร้อนก็นำ กุ้งแห้งลงทอดให้ กรอบ ตักขึ้นซับน้ำมันค่ะ
  • หอมแดง ปอกเปลือกแล้วซอยบางๆ
  • พริกแห้งทอด พริกแห้งเด็ดขั้ว แล้วทอดพอกรอบ
  • กุนเชียง หั่นเป็นชิ้นพอคำแล้วทอดให้สุก
  • พริกขี้หนู ล้างให้สะอาดแล้วหั่นเป็นวงบางๆ
  • มะม่วง ปอกเปลือกแล้วขูดเป็นเส้นฝอยๆ
  • มะนาว หั่นเสี้ยว เวลาทานบีบมะนาวลงไปหน่อยกันเลี่ยนได้ดีค่ะ

โจ๊กหมูเอ็กซ์เพลส

โจ๊กหมูร้อนๆ มาแล้วค่า... เรากับพ่อบ้านชอบกินโจ๊กมาก ส่วนใหญ่คนมักกินโจ๊กเป็นอาหารเช้า แต่พวกเราจะกินเป็นมื้อเย็นแทนค่ะ และด้วยความ ที่ชอบกินแต่เป็นคนขี้เกียจจะให้ต้มนานๆ ก็คงไม่ไหวแฮะ สุดท้ายก็เลยทำเจ้าโจ๊กหมูชามด่วนกินกันสองคนอยู่บ่อยๆ ค่ะ เร็วและง่าย อร่อยด้วยค่ะ


เครื่องปรุงโดยประมาณนะคะ สำหรับทาน 2 คน

  • หมูบด+(น้ำมันหอย+ซีอิ้วขาว+น้ำตาลทราย+พริกไทยป่น+แป้งมัน+กระเทียมตำละเอียด <--อย่างละนิด) นวดให้เข้ากันแล้วแช่เย็นไว้ก่อน
  • ข้าวสวย 1 1/2 ถ้วย
  • น้ำสะอาด 1 1/2 ถ้วย
  • น้ำซุปหมูหรือไก่ 1/2 ถ้วย
  • ไข่ลวก
  • ตับหมูหั่นชิ้นบางๆ แล้วลวก
  • ซีอิ้วขาว
  • พริกไทยป่น
  • หมี่่กรอบ
  • ขิงหั่นเส้น
  • พริกขี้หนูเม็ดใหญ่หั่นแล้วแช่น้ำส้มสายชูไว้ค่ะ
  • ต้นหอมผักชีหั่นรวมกัน
วิธีทำ

ปั่นข้าวสวยกับน้ำสะอาดรวมกัน แล้วนำหม้อตั้งไฟกลาง ใส่น้ำซุปลงไปคนให้เข้ากันต้มประมาณ 10 นาที คนเป็นครั้งคราวเพื่อไม่ให้ข้าวติดก้นหม้อค่ะ พอน้ำเริ่มงวดก็ปั้นหมูใส่ลงไปค่ะ ต้มต่อไม่เกิน 5 นาที พอหมูสุกก็ตักโจ๊กใส่ชามที่จะเสิร์ฟ ตอกไข่ลวกลงไป ใส่ตับที่ลวกไว้ หมี่กรอบ ขิงสับ พริกน้ำส้ม ซีอิ้วขาว และต้นหอมผักชีค่ะ ใครชอบพริกไทยก็โรยใส่ไปหน่อยด้วยค่ะ แค่นี้เอง ง่ายดีมั้ยคะ

Monday, April 13, 2009

ผัดหมี่ซั่ว

เนื่องจากเจ้านายที่บ้านคลั่งไคล้อาหารเส้นทุกชนิด ไม่ว่าจะเป็นพาสต้าอิตาเลีย หรือบรรดาอาหารเส้นแบบเอเชีย ท่านก็โปรดปรานไม่แพ้ กันค่ะ และหนึ่งในอาหารเส้นที่ท่านขอให้ทำให้รับทานบ่อยที่สุดก็คือ "ผัดหมี่ซั่ว" เนี่ยล่ะค่ะ บางครั้งทำบ่อยจนแจ๋วเบื่อ ไม่อยากจะได้ยิน แม้แต่ชื่อผัดหมี่ซั่วเลยก็มีค่ะ

เครื่องปรุงโดยประมาณ

1. หมี่ซั่ว 200 กรัม
2. เนื้อหมูหรือหมูสับ 100 กรัม (ถ้าใช้เนื้อหมูให้หั่นชิ้นบางๆ แล้วหมักกับแป้งข้าวโพด น้ำมันหอย น้ำมันงา น้ำตาลทรายและพริกไทยป่น ไว้ประมาณ 30 นาทีค่ะ)
3. เต้าหู้แข็ง 80 กรัม
4. เห็ดหอม 4 ดอก
5. พริกหวาน 3 สี
6. ถั่วงอก 100 กรัม
7. หอมหั่วใหญ่ 1 หัว
8. กระเทียม 1 กลีบใหญ่
9. ซีอิ้วขาว 1 ชต.
10. น้ำมันหอย 1 ชต.
11. น้ำตาลทราย 1/2 ชต.
12. พริกไทยป่น 1/2 ชช.
13. น้ำมันพืช 2 ชต.
14. น้ำซุป 3 ชต.

หมายเหตุ ใครชอบเนื้อกุ้งหรือไก่ก็ใส่แทนหมูได้นะคะ ส่วนเต้าหู้เนี่ยหากไม่ชอบก็ไม่ต้องใส่ค่ะ

วิธีทำ

นำหม้อใส่น้ำตั้งไฟให้เดือด แล้วใส่หมี่ซั่วลงลวกพอเส้นนิ่มก็ตักออก ผ่านน้ำเย็นจัดทันที แล้วสะเด็ดน้ำพักไว้ก่อนค่ะ จากนั้นนำเต้าหู้ มาหั่นเต๋า เห็ดหอมแช่น้ำให้นิ่มแล้วหั่นเส้น พริกหวานล้างให้สะอาดหั่นเส้น ถั่วงอกล้างให้สะอาดแล้วเด็ดหางทิ้ง หอมหัวใหญ่ปอกเปลือก แล้วหั่นตามขวาง กระเทียมปอกเปลือกทุบแล้วสับละเอียด

นำกระทะตั้งไฟ ใส่น้ำมันพืชลงไป พอน้ำมันร้อนใส่เต้าหู้ลงทอดพอเหลือง ตักขึ้้น แล้วใส่เห็ดหอมและัหอมหัวใหญ่ลงผัดจนส่งกลิ่น หอม ใส่กระเทียมและเนื้อหมูลงผัดพอหมูสุก ใส่ซี้อิ้วขาว น้ำมันหอย น้ำตาลทราย และพริกไทยผัดพอเข้ากัน เติมน้ำซุปแล้วชิมรส ตามชอบค่ะ

ใส่เส้นหมี่ซั่วและพริกหวานลงผัดจนน้ำปรุงซึมเข้าเส้นทั่วถึงดี เร่งไฟแรง ใส่ถั่วงอกลงผัด 2-3 ครั้งก็ปิดไฟ ตักเสิร์ฟร้อนๆ ค่ะ


Sunday, April 12, 2009

ผัดหมี่โคราช



เราเป็นคนโคราชค่ะ เพราะอย่างนี้หนึ่งในอาหารจานโปรดก็คือผัดหมี่โคราชนั่นเอง ทำกินบ่อยมากถึงมากที่สุดเลย เลือดโคราชในตัวช่าง เข้มข้นเหลือเกินจริงๆ ค่ะ

เครื่องปรุง  โดยประมาณ

  • หมี่โคราช 200 กรัม (หาไม่ได้ใช้ก๋วยเตี๋ยวเส้นจันทร์แทนได้ค่ะ) 
  •  กระเทียมกลีบใหญ่ 3 กลีบ
  • หอมแดง 2 หัว
  • เนื้อหมู 150 กรัม
  • เต้าเจี้ยว 1 ชต.
  • น้ำปลา 2 ชต.
  • น้ำตาลปี๊บ 2 ชต.
  • ซีอิ้วดำ 1 ชต.
  • พริกป่น 1 ชต.
  • น้ำมะขามเปียกข้นๆ 3 ชต.
  • น้ำสะอาด 1/4 ถ.
  • น้ำมันพืช 3 ชต.
  • ต้นหอม ถั่วงอก

วิธีทำ
 
นำก๋วยเตี๋ยวเส้นจันทร์แช่น้ำแค่พอนิ่ม (ไม่ต้องแช่นานจนเส้นนิ่มมากนะคะ เดี๋ยวผัดแล้วเส้นเละติดกันไม่น่ากิน) แล้วสะเด็ดน้ำพักไว้ ส่วนกระเทียมก็ตำ ๆ ทุบ ๆ ไว้ ไม่ต้องละเอียดมากค่ะ หอมแดงปอกเปลือกแล้วซอยบางๆ เนื้อหมูหั่นชิ้นบางๆ ไว้ค่ะ 

นำกระทะตั้งไฟ ใส่น้ำมันพืชลงไป พอน้ำมันร้อนใส่กระเทียมกับหอมแดงลงผัดให้ส่งกลิ่นหอมและกระเทียมมีสีเหลือง ใส่เนื้อหมูลงไปผัดพอหมูเปลี่ยนสี 

ใส่เต้าเจี้ยว น้ำตาลปี๊บ น้ำปลา พริกป่น น้ำมะขามเปียกและน้ำลงไปผัดจนน้ำตาลละลาย หมด และสีซอสดูเข้มสวย ชิมรสให้ออกเค็ม หวาน เผ็ด พยายามปรุงรสให้จัดเข้าไว้ก่อน เมื่อใส่เส้นลงผัดแล้วจะได้ไม่ต้องปรุงเพิ่มค่ะ 

จากนั้นก็ใส่เส้นก๋วยเตี๋ยวลงผัดค่ะ ผัดไปจนซอสเข้าเส้นดี พอน้ำแห้งก็ใส่ถั่วงอกและต้นหอม คนให้เข้ากันก็เสร็จ ทานร้อนๆ อร่อย ที่สุดเลยจริงๆ นะจะบอกให้ 






Monday, April 6, 2009

หอยทอด : crispy green shell mussel

หอยทอด อาหารที่ทำง่ายแสนง่ายแต่อร่อยมากมาย เราสามารถกินได้หลายวันติดๆ กันได้โดยไม่เบื่อเลยค่ะ ต้องขอบคุณคุณนีร์นารินเจ้าของสูตรมากๆ นะคะ มาดูส่วนผสมโดยประมาณกันนะคะ

ส่วนผสม สำหรับ 3 ที่
หอยแมลงภู่ 3/4 ถ้วย
ถั่วงอก 1 1/2 ถ้วย
ซีอิ้วขาว 1/2 ช้อนชา
กระเทียมสับ 1 ช้อนชา
ไข่ไก่ 3 ฟอง
ต้นหอม ผักชี ซอยละเอียด 2 ชต.
แป้งมัน 6 ชต.
แป้งข้าวเจ้า 2 ชต.
น้ำโซดา 125 มล. (ถ้าไม่มีน้ำโซดาก็ใช้น้ำสะอาด 125 มล. แล้วเติมผงฟูไปสัก 1/4 ชช. ก็ได้ค่ะ)
เกลือ 1/4 ช้อนชา
พริกไทย 1/4 ช้อนชา
น้ำมันพืชสำหรับทอด

วิธีทำ

เริ่มทำโดยการผสมแป้งมันกับแป้งข้าวเจ้า ใส่พริกไทย เกลือ และน้ำโซดาคนให้เข้ากันดี แล้วนำไปแช่ช่องแข็งไว้ก่อน ระหว่างนั้นก็นำ หอยแมลงภู่ มาล้างให้สะอาด สะเด็ดน้ำทิ้งไว้ ไข่ก็ตีหยาบๆ ไว้ค่ะ ถั่วงอกก็ล้างให้สะอาด เด็ดหัวกับหาง แต่เราใจดีปล่อยใ้ห้หัวถั่วงอกติดกับบ่าอยู่ค่ะ อิอิ ส่วนผักชีกับต้นหอมก็ซอยละเอียดเลยค่ะ

เมื่อเตรียมส่วนผสมเรียบร้อยก็เริ่มทำค่ะ นำกระทะตั้งไฟ ใส่น้ำมันลงไป เร่งไฟแรงเลยค่ะ พอน้ำมันร้อน ตักเกือบๆ 1/3 ของส่วนผสมแป้งราดลงบนกระทะ เกลี่ยให้เป็นแผ่นทั่วก้นกระทะเลยค่ะ

จากนั้นก็โรยหอยแมลงภู่ให้ทั่วแผ่นแป้ง แล้วใส่ต้นหอมผักชีโรยให้ทั่ว ตามด้วย 1/3 ของไข่ที่เราตีไว้ พยายามเกลี่ยไข่ ให้ทั่วแผ่นแป้งค่ะ แล้วตักส่วนผสมแป้งสัก 1 ชต. ราดไข่อีกทีค่ะ เมื่อแป้งด้านล่างมีสีเหลืองกรอบดีแล้วก็กลับด้าน ทอดให้กรอบเหมือนๆ กันทั้งสองด้าน

เจียวกระเทียมให้หอม แล้วใส่ถั่วงอกกับซีอิ้วขาวลงผัดพอผักสลด แล้วจึงตักถั่วงอกใส่จานที่จะใช้เสิร์ฟ แล้วตักหอยทอด วางไว้ข้างบน เสิร์ฟพร้อมกับซอสพริกผสม น้ำจิ้มไก่และน้ำต้มสุกเล็กน้อยค่ะ