เจ้าเดนิชแอ๊บเปิ้ลเนี่ยปกติเราซื้อกินแทบทุกวันศุกร์เวลาไปจ่ายตลาดค่ะ ความที่เรานิสัยเสียชอบกินอาหารมื้อเช้าควบเที่ยงพร้อมกันเลย ก็ประมาณ 11 โมงเช้าแหละ และทุกบ่ายวันศุกร์เราต้องไปจ่ายกับข้าวแล้วมันก็หิวทีนี้ ผลก็คือวิ่งเข้าเบเกอรี่ซื้อเดนิชแอ๊บเปิ้ลมากินทุกทีไป แต่ซื้อที่ร้านไม่ค่อยถูกใจเลย มันแห้งๆ ไป อีกอย่างรู้ว่าสมัยนี้ร้านเบเกอรี่ส่วนใหญ่เค้าไม่ได้ทำขนมสดๆ เหมือนเมื่อก่อนแล้ว แต่เป็นการรับจากบริษัทแม่ซึ่งผลิตไว้ปริมาณเยอะๆ แล้วแช่แข็ง ก่อนนำมาส่งตามสาขาย่อยต่อไป ความรู้สึกอคติมันก็มาเลย สรุปว่าอะไรที่ทำกินเองได้ก็อยากทำกินเอง แล้วก็เข้าข้างตัวเองว่าอร่อยกว่าซื้อที่ร้านค่ะ เอิ๊กๆ
ส่วนผสมแป้ง ได้ประมาณ 4 ชิ้นค่ะ
นมสด 55 กรัม
ยีสต์แห้ง 3 กรัม
น้ำตาลทราย 25 กรัม
วานิลาบัทเทอร์ 1/4 ชช.
ไข่แดง 1/2 ฟอง
แป้งสาลีอเนกประสงค์ 135 กรัม
เกลือป่น 3 กรัม
ส่วนผสมไส้
เมื่อพักแป้งครบ 3 รอบแล้วก็นำแป้งมารีดให้มีขนาดประมาณ 28x22 ซม. ตัดแบ่งแป้งเป็น 4 แผ่นเท่าๆ กัน แล้วตัดแบ่งครึ่งแต่ละแผ่นอีกครั้ง รวมเป็น 8 แผ่น
เมื่อครบ 60 นาทีแล้วก็จัดการอุ่นเตาอบ 200 องศาเซลเซียส คนไข่แดงกับนมสดให้เข้ากันแล้วใช้แปรงนุ่มๆ ชุบทาผิวเดนิชให้ทั่ว เมื่อเตาอบร้อนได้ที่แล้วก็นำถาดอบเข้าวางบนชั้นกลางของเตาอบ อบไฟบน-ล่างประมาณ 15-20 นาทีจนมีสีน้ำตาลทองค่ะ
เมื่อทาแยมแล้วก็ปล่อยให้แห้งประมาณ 30 นาที แล้วก็เสิร์ฟได้ค่ะ อบเสร็จใหม่ๆ แป้งยังกรอบอยู่อร่อยได้ใจจริงๆ แต่ถ้าปล่อยไว้ข้ามคืนความชื้นจากไส้จะซึมเข้าตัวแป้ง ทำให้แป้งไม่กรอบเท่าที่ควรค่ะ
ตัดให้ดูข้างในตามธรรมเนียมค่ะ ผิวแป้งกรอบๆ กับเนื้อในนุ่มๆ ผสมผสานกับรสแอ๊บเปิ้ลเปรี้ยวๆ หวานๆ เต็มปากเต็มคำ ชิมชิ้นนึงแล้วหยุดไม่ได้ ต้องมีต่อภาคสองค่ะ งานนี้แฟนน้องเปิ้ลไม่น่าพลาดนะคะ
ส่วนผสมแป้ง ได้ประมาณ 4 ชิ้นค่ะ
ส่วนผสมไส้
- แอ๊บเปิ้ลเปรี้ยว 140 กรัม
- น้ำแอ๊บเปิ้ล 35 กรัม
- น้ำตาลทราย 15 กรัม
- อบเชยป่น 1/4 ชช.
- ลูกเกด 30 กรัม
- เหล้ารัม 1 ชต.
- เนยสดเย็น 70 กรัม
- ไข่แดง 1/2 ฟอง+นมสด 1/2 ชต. สำหรับทาผิวก่อนอบ
- แยมแอพริคอท สำหรับทาผิวหลังอบ
ใส่นมสด ยีสต์ น้ำตาลทรายและวานิลาลงไปในอ่างผสม คนให้เข้ากันจนน้ำตาลละลาย แล้วจึงใส่ไข่แดง แป้งและเกลือลงไปคนพอเข้ากันดี แล้วใช้เครื่องตีหัวเกลียวนวดด้วยความเร็วกลางประมาณ 1 นาทีพอเนียน เสร็จแล้วก็รวบแป้งเป็นก้อนสี่เหลี่ยม ห่อพลาสติกใสให้มิดชิดแล้วนำไปแช่เย็นไว้ 30-45 นาทีค่ะ
จากนั้นนำแป้งออกมาคลึงให้เป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้าหนาประมาณ 1/3 ซม. โดยคลึงให้ด้านยาวๆ กว่าด้านกว้างสัก 3 เท่านะคะ เสร็จแล้วนำเนยออกจากตู้เย็น ใส่ถุงพลาสติก รีดเนยให้ด้านกว้างมีขนาดเกือบเท่าความกว้างของแป้ง แต่ความยาวประมาณ 2/3 ของแผ่นแป้ง จากนั้นนำบล็อกเนยวางไว้ด้านใดด้านหนึ่งของแผ่นแป้ง กะแป้งแบ่งเป็น 3 ส่วน พับแป้งด้านที่ไม่มีเนยลงมาทบแป้งส่วนที่ 2 ค่ะ
ตลบปลายแป้งอีกด้านมาทับกัน เหมือนพับจดหมายน่ะค่ะ เสร็จแล้วก็รีดแป้งตามยาวให้เป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้ายาวประมาณ 30-35 ซม. ส่วนด้านกว้างไม่ต้องสนใจแล้วค่ะ จากนั้นก็พับแป้งทั้งสองด้านเข้าหากัน แล้วพับทบอีกครั้งเหมือนหนังสือค่ะ ใช้นิ้วจิ้มแป้ง 1 ครั้งเพื่อทำเครื่องหมายไว้ว่าได้รีดแป้งไป 1 ครั้งแล้ว ใช้พลาสลติกใสหรือถุงพลาสติกหุ้มแป้งให้มิดชิด นำไปแช่เย็น 20-30 นาที (ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศค่ะ ถ้าอากาศร้อนก็ต้องพักนานหน่อย)
หลังแช่เย็น 20 นาทีแล้วก็นำแป้งออกมารีด พับ และแช่เย็นอีก 2 รอบค่ะ (รอบที่ 1 ใส่เนยแล้วรีดแป้ง ส่วนรอบที่ 2 และ 3 แค่รีดแป้งแล้วพับค่ะ อย่าลืมใช้นิ้วจิ้มแป้งทำสัญลักษณ์ไว้ด้วยนะคะ แป้งที่รีดและแช่เย็นครั้งสุดท้ายจะมีรอยนิ้วจิ้มไว้ 3 รอยค่ะ)
ระหว่างที่พักแป้งก็ทำไส้รอไว้ค่ะ ปอกเปลือกแอ๊บเปิ้ลตัดแกนออกแล้วหั่นเป็นชิ้นหนาประมาณ 1/2 ซม. ใส่หม้อตั้งไฟกลาง เติมน้ำแอ๊บเปิ้ลและน้ำตาลทราย ต้มจนเดือดลดเหลือไฟอ่อนต้มต่อประมาณ 4-5 นาทีจนแอ๊บเปิ้ลนิ่มและน้ำแห้ง ปิดไฟแล้วใส่อบเชยคนให้เข้ากัน พักไว้ให้เย็นสนิทค่ะ ลูกเกดก็แช่รัมไว้ด้วยนะคะ
เมื่อพักแป้งครบ 3 รอบแล้วก็นำแป้งมารีดให้มีขนาดประมาณ 28x22 ซม. ตัดแบ่งแป้งเป็น 4 แผ่นเท่าๆ กัน แล้วตัดแบ่งครึ่งแต่ละแผ่นอีกครั้ง รวมเป็น 8 แผ่น
นำแป้งมาหนึ่งแผ่น วางแอ๊บเปิ้ลลงไป ตามด้วยลูกเกด แล้วนำแป้งอีกแผ่นมาพับครึ่งตามยาว ตัดเป็นริ้วๆ เหมือนในรูปค่ะ
คลี่แผ่นแป้งออกแล้วนำไปคลุมแอ๊บเปิ้ลไว้ค่ะ จากนั้นก็คลุมด้วยพลาสติกใส พักแป้งให้ขึ้นอีก 45-60 นาทีหรือจนแป้งขึ้นดีค่ะ
เมื่อทาแยมแล้วก็ปล่อยให้แห้งประมาณ 30 นาที แล้วก็เสิร์ฟได้ค่ะ อบเสร็จใหม่ๆ แป้งยังกรอบอยู่อร่อยได้ใจจริงๆ แต่ถ้าปล่อยไว้ข้ามคืนความชื้นจากไส้จะซึมเข้าตัวแป้ง ทำให้แป้งไม่กรอบเท่าที่ควรค่ะ
ตัดให้ดูข้างในตามธรรมเนียมค่ะ ผิวแป้งกรอบๆ กับเนื้อในนุ่มๆ ผสมผสานกับรสแอ๊บเปิ้ลเปรี้ยวๆ หวานๆ เต็มปากเต็มคำ ชิมชิ้นนึงแล้วหยุดไม่ได้ ต้องมีต่อภาคสองค่ะ งานนี้แฟนน้องเปิ้ลไม่น่าพลาดนะคะ
วันนี้ลองทำตามสูตรแล้ว อยากบอกว่าขอบคุณนะคะที่ให้สูตรอร่อยๆแต่รีดแป้งทีไรเนยมันปูดทุกที่เลย....
ReplyDeleteOOM
ถ้าเนยปลิ้นออกมาคราวหน้าถ้าทำอีกคุณ Oom ลองใช้เวลาในการรีดให้เร็วขึ้นนะคะ ตอนรีดแป้งไม่ต้องออกแรงมากแต่ให้ใช้ไม้คลึงแป้งกดน้ำหนักบนตัวแป้งอย่าง สม่ำเสมอทั่วแผ่น ไม่รีดซ้ำไปซ้ำมาบ่อยๆ เพราะจะทำให้เนยซึมเข้าตัวแป้งได้ แล้วพออบก็จะไม่เห็นเป็นชั้นๆ ค่ะ เราใช้เวลาในการรีด+พับไม่น่าจะเกิน 2 นาทีค่ะ ถ้านานกว่านั้นแป้งจะคลายความเย็นลง เนยก็จะละลาย ทำให้ปูดออกมานอกตัวแป้งได้
ReplyDeleteหากมีเนยปลิ้นออกมานิดหน่อย ให้โรยแป้งนวลบางๆ ตรงจุดนั้นแล้วใช้แปรงนุ่มๆ ปัดแป้งออกให้มากที่สุด ก็พอช่วยได้ค่ะ
ลอกสูตรไปทำแล้วคะ อร่อยมากๆ ขอบคุณที่แบ่งปัน
ReplyDeleteฟังแล้วชื่นใจจังค่ะ ขอบคุณมากนะคะที่รายงานผล :-)
ReplyDeleteขอพูดได้อย่างเดียวว่าอร่อยมากๆๆๆๆ และขอขอบคุณกับสูตรที่ดีมากๆๆๆ
ReplyDeleteคุณณัฐมาทีไรชื่นจายทู๊กกกกกที
ReplyDeleteคุณวาวาค่ะไม่อยากจะบอกว่าสุตรนี้ทำห้าครั้งแล้วค่ะทำติดกันจนน้ำหนักขื้นมาสองโลสามีบ่นอ้วนต้องแอบทำแล้วซ่อนไว้กินคนเดียวแต่บางทีแป้งมันแข็งบางทีก็กรอบแต่กินหมดอร่อยมากขอบอกแต้งหลายนะค่ะเปิดเวปคุณทุกวันเลยค่ะเพื่อหาสุตรอร่อย
ReplyDelete