Wednesday, August 10, 2011

ชีสเค้กส้ม : mandarin cheesecake


ชีสเค้กส้มแสนอร่อยสูตรของแม่สามีสุดที่รักของเราเองค่ะ เมื่อก่อนตอนที่เรายังไม่หัดอบขนม แม่ทำให้ทานบ่อยมากเพราะเป็นเค้กโปรดของเรา แต่พอทำเองได้แล้วเราก็เป็นฝ่ายอบไปฝากแม่แทนค่ะ แต่จะปรับส่วนผสมจากสูตรไปบ้างด้วยเหตุผลเรื่องสุขภาพน่ะค่ะ 

เราลดปริมาณแป้ง เนย และน้ำตาลจากฐานลงไปประมาณนึง แล้วก็ใช้ซอฟท์ครีมชีสไขมันต่ำแทนครีมชีสธรรมดาซึ่งไขมันสูงมาก ลดน้ำตาลลงนิดหน่อย ส่วนน้ำมันลดลงครึ่งหนึ่งเลย ทำให้เนื้อชีสเค้กที่ได้เบาขึ้น ไม่หนักเหมือนสูตรต้นฉบับค่ะ แต่ความเข้มข้นหวานมันก็ลดลงนิดหน่อยเช่นกันค่ะ สูตรนี้สำหรับสปริงฟอร์มขนาด 24-26 ซม. นะคะ


ส่วนผสมฐานชีสเค้ก
 
1. เนยนุ่มๆ หรือมาการีน 80 กรัม
2. น้ำตาล 80 กรัม
3. ไข่ไก่ขนาดกลาง 1 ฟอง
4. เกลือ 1/8 ชช.
5. แป้งสาลีอเนกประสงค์ 160 กรัม
6. ผงฟู 1 ชช.
7. วานิลา 1/2 ชช.



วิธีทำ 


เตรียมสปริงฟอร์มขนาด 24-26 ซม. ทาเนยบางๆ ให้ทั่วพิมพ์ แล้วโรยแป้งหรือขนมปังป่นให้ทั่ว เคาะๆ เอาแป้งส่วนเกินออกด้วยนะคะ  จากนั้นก็อุ่นเตาอบรอไว้ที่ 200 องศาเซลเซียสค่ะ

ใส่เนย น้ำตาล ไข่ไก่ และเกลือในอ่างผสม ตีให้พอเข้ากัน แล้วใส่แป้ง ผงฟู และวานิลาลงไปตีให้เข้ากันดี เสร็จแล้วก็นำไปกรุพิมพ์ที่ทาเนยและโรยแป้งไว้แล้ว โดยทำขอบแป้งให้สูงกว่าฐานประมาณ 1 นิ้วค่ะ นำไปใส่ตู้เย็นไว้ก่อน แล้วเราก็ไปทำตัวชีสเค้กกันค่ะ

ส่วนผสมชีสเค้ก
  • ส้มกระป๋องเล็ก (น้ำหนักรวมน้ำเชื่อม 312 กรัม) 2 กระป๋อง 
  • ครีมชีส 500 กรัม (เราใช้ Quark หรือ soft cream cheese ที่ไขมันต่ำกว่า 1% ค่ะ) 
  • ซาวครีม 120 กรัม (เราใช้โยเกิร์ตรสธรรมชาติแทน)  
  • น้ำตาลทราย 120 กรัม
  • ไข่ไก่ขนาดกลาง 2 ฟอง
  • ผงพุดดิ้งรสวานิลา 1 ซอง (38 กรัม) ถ้าไม่มีใช้แป้งเค้ก 2 ชต. แทนได้ค่ะ
  • น้ำมันพืช 60 กรัม 
  • วิปปิ้งครีม 200 กรัม 
  • วานิลา 1 ชช.
วิธีทำ


เปิดกระป๋องส้มเทใส่ตะแกรงให้สะเด็ดน้ำรอแต่งหน้าชีสเค้ก เก็บน้ำเชื่อมไว้ทำเจลลี่ราดหน้าเค้กด้วยนะคะ

จากนั้นก็ตีครีมชีสกับซาวครีมรวมกันพอเนียน แล้วใส่ไข่ไก่กับน้ำตาลทรายลงไปตีพอเข้ากัน แล้วจึงใส่ส่วนผสมที่เหลือทั้งหมดตีแค่พอเข้ากัน เทใส่พิมพ์ที่กรุฐานไว้เรียบร้อยแล้ว แต่งหน้าด้วยส้มก่อนส่งเข้าเตาอบ ลดไฟเหลือ 180 องศาเซลเซียส ใช้เวลาอบประมาณ 60 นาที หรือจนกว่าหน้าเค้กจะเซ็ตตัวดีค่ะ พอสุกก็เอาออกมาวางบนตะแกรง พักไว้ให้เย็นอุณหภูมิห้องแล้วถอดสปริงฟอร์มออก (วันนี้เรามีเวลาน้อยเลยรีบแซะออกจากพิมพ์ ขอบเลยไม่เรียบอย่างที่เห็นค่ะ) แล้วไปทำเจลลี่ราดหน้าเค้กค่ะ


เจลลี่ราดหน้าเค้ก
 
1. น้ำเชื่อมที่เก็บไว้จากส้มกระป๋อง 250 มล.
2. ผงเจลลี่ (cake glaze) 1 ซอง (12 กรัม)

วิธีทำ

นำผงเจลลี่และน้ำเชื่อมเทใส่หม้อ ใช้ตะกร้อมือคนจนผงเจลลี่ละลายหมด แล้วนำหม้อตั้งไฟกลางคนตลอดเวลา เมื่อส่วนผสมเริ่มเดือดปุดๆ ปิดไฟแล้วยกลงจากเตา พักให้คลายความร้อนประมาณ 2 นาที แล้วใช้ตะกร้อมือคนแรงๆ ให้ทั่วก่อนนำมาราดหน้าเค้ก โดยเริ่มราดจากตรงกลางไปจนถึงรอบนอกค่ะ จากนั้นทิ้งไว้ให้เย็นอุณหภูมิห้อง แล้วเอาเข้าตู้เย็นสัก 2 ชม. ก่อนตัดแบ่งกันทานค่ะ  


บางครั้งเรารีบมาก เค้กยังไม่เย็นก็ตัดกินซะแล้ว ตัดได้ไม่สวยเลย เพราะฉะนั้นเพื่อนๆ ห้ามทำตามนะคะ รอให้เค้กเย็นอุณหภูมิห้องก่อนนำไปแช่เย็นสัก 2 ชม. แล้วค่อยตัดจะช่วยให้ชีสเค้กเซ็ตตัวได้ดีขึ้น ตัดได้เรียบสวยและตัดง่ายขึ้นด้วยค่ะ ใครลองทำก็ขอให้ออกมาสวยๆ อร่อยๆ กันทุกคนนะคะ

30 comments:

  1. ลองทำแล้วค่ะอร่อยมากเลยและแฟนชอบมากด้วยและสวัสดีปีใหม่ขอให้คุณอุ้ยมีความสุขและสุขภาพแข็งแรงและครอบครัวมีความสุขตลอดไปค่ะ

    ReplyDelete
  2. ว้าว ว้าว... น่าหม่ำจังเลยค่ะ :P

    NinG

    ReplyDelete
  3. แป๊ก WeloverAugust 18, 2011 at 4:25 AM

    แอบอ่านและแอบทำตามหลายสูตรแล้วค่ะ ... รสชาดตามสูตรบอกได้คำเดียวว่า "เริ่ด" แต่หน้าตายังไม่ดีเท่าคนทำ สงสัยต้องปรับปรุงกันอีกสักนิด (( อิอิ ))

    ReplyDelete
  4. แป๊ก WeloverAugust 18, 2011 at 4:28 AM

    จริงๆแล้วมีปัญหาอยากปรึกษาค่ะ ... คือว่าเตาอบที่ใช้มีอายุขัยที่มากมายเกือบ10ปีแล้ว ระยะหลังมองไฟล่างจะแรงผิดปกติ แต่ไม่กล้าลดไฟ เพราะพอลดแล้ว เนื้อเค้กไม่ได้ตามที่ต้องการ ก็เลยเครียดๆเวลาทำ

    อยากถามว่า ... เราควรจะลดไฟดีไม๊คะ แล้วเพิ่มเวลาในการทำ หรือว่ามีวิธีแก้ไขยังไงได้บ้าง (( ที่บ้านไม่มีเทอร์โมวัดไฟแยกอ่ะค่ะ )) เวลาเปิดเตาก็ตั้งไฟตามแป้นหมุนของจอ แต่ไฟมันแรงเว่อร์เลย

    ReplyDelete
  5. ขอบคุณค่ะคุณณัฐ คุณหนิง และคุณแป๊ก

    ** ตอบคุณแป๊กนะคะ ถ้าไฟล่างแรงผิดปกติก็เลื่อนถาดอบขึ้นไปวางชั้นบน
    อีก 1 ชั้นค่ะ เช่นหากปกติวางถาดอบชั้น 2 จากล่าง ก็เลื่อนขึ้นไปวางข้าง
    บนอีก 1 ชั้น แล้วก็อบตามปกติค่ะ ว่าแต่อ่านเม้นท์ข้างบนแล้วคุณแป๊กต้อง
    หน้าตาดีมากๆๆๆ เลยนะเนี่ย อิอิ

    ReplyDelete
  6. แป๊ก WeloverAugust 25, 2011 at 11:19 AM

    ขอบคุณสำหรับคำแนะนำนะคะ

    ส่วนเรื่องหน้าตา ... ละไว้ในฐานที่เข้าใจดีกว่า อย่าค้นหาความจริงเลย เพราะความจริงบางอย่าง ไม่สมควรแก่การเปิดเผย 5555

    จะติดตามเวปไปตลอดนะคะ

    ออ อยากได้โอรีโอชีสเค้กแบบไม่อบอ่ะค่ะ ช่วงนี้บ้าชีสแอนด์ช็อค ขอบคุณล่วงหน้านะคะ ^^

    ReplyDelete
  7. ไม่ได้เข้าบล๊อคนานเเวะมาทักทายซะหน่อยเลยพี่อุ๊ยสบายดีนะคะ...
    ชีสเค้กน่าทานมั๊กๆ เห็นเเล้วน้ำลายไหล ฮ่าๆๆ อยากกินๆๆ ช่วงนี้ติดกินของหวานมากเลยค่ะ วันใหนไม่ได้กินจะลงเเดงให้ได้...ทำยังไงจะหยุดได้คะอาหารเเบบนี้...กลัวเบาหวานถามหา อิอิ

    ReplyDelete
  8. ขอบคุณสำหรับสูตรค่ะ อร่อยมาก ๆ แต่ฝีมือเพิ่งหัดทำหน้าตายังไม่สวย
    ไว้ถ้าทำรอบใหม่ได้สวย ๆ แล้วจะเอารูปมาส่งการบ้านนะคะ

    ReplyDelete
  9. ขอถามหน่อยได้ไหมค่ะ ตัวcake glaze ใช้เจลาตินแผ่นได้ไหมคะ เผอิญหาซื้อผงไม่ได้ค่ะ
    ปล ลองทำbutter cakeกับ คุ๊กกี้ของสูตรที่นี่ เพิ่งหัดทำครั้งแรก แม่บอกว่าอร่อยมากเลยคะ ขอบคุณมากๆเลยนะคะ

    ReplyDelete
  10. สวัสดีค่ะคุณแป๊ก คุณสา และคุณ jingabellrock ขอบคุณสำหรับคอมเม้นต์นะคะ

    คุณแป๊กจ๋า สูตรโอรีโอชีสเค้กแบบไม่อบเราไม่มีน่ะจ้ะ ขอโทษด้วยน๊า

    ReplyDelete
  11. คุณ Anonymous ตัว cake glaze ใช้เจลาตินแผ่นแทนได้ค่ะ แช่เจลาตินในน้ำเย็นให้นิ่ม แล้วนำน้ำแอ๊บเปิ้ลตั้งไฟพอร้อนแต่ไม่ให้เดือดก็ปิดไฟ ใส่เจลาตินนิ่มลงไปคนให้ละลายหมดแล้วทิ้งไว้ให้อุ่นหน่อยก็ราดหน้าเค้กค่ะ ใช้
    เจลาตินมันอาจจะเซ็ตตัวช้ากว่า cake glaze บ้าง แต่ถ้านำไปแช่ตู้เย็นแป๊บๆ ก็จับตัวแล้วค่ะ ขอบคุณนะคะสำหรับคอมเม้นต์

    ReplyDelete
  12. ขอบคุณมากค่ะ ^0^

    ReplyDelete
  13. คุณคือแรงบันดาลใจที่ทำไห้อยากกลับมาทำเบเกอรี่อีครั้งสุตรนี้ตัวเค้กอร่อยมากค่ะแต้งหลายๆนะค่ะ

    ReplyDelete
    Replies
    1. ขอบคุณมากค่ะ ดีใจจัง ^0^

      Delete
  14. น่าทานมากๆเลยค่ะ

    ReplyDelete
  15. ไปบ้านเพื่อนคนเยอรมันแล้วเค้าเอาชีสเค้กส้มมาให้ชิม อร่อยมากๆ เลยค่ะ
    มาเจอสูตรแล้ว ไว้ว่างๆ จะลองทำดูบ้าง
    ว่าแต่ เค้กของเยอรมันส่วนใหญ่จะมีของเปรี้ยวๆ เสมอเลยนะคะ หรือว่าเป็นกับฤดูกาล?
    เมื่อก่อนอยู่ญี่ปุ่นค่ะ เค้กส่วนใหญ่หวาน ไม่ค่อยมีบัตเตอร์ครีมเยอะเหมือนทางนี้ด้วย
    แต่ของเยอรมันก็อร่อยดีไปอีกแบบนึง

    ReplyDelete
    Replies
    1. ถ้าเป็นเค้กผลไม้ส่วนใหญ่เค้าก็ใช้ผลไม้ตามฤดูกาลน่ะค่ะ อย่างช่วงที่มีลูกพลัมออก
      เยอะๆ ก็จะนำมาทำเค้กโน่นนี่นั่นไปเรื่อย พอหน้าราบาร์เบอร์ก็จะมีเมนูที่เกี่ยวกับ
      ราบาร์เบอร์เยอะแยะไปหมด ตอนนี้เป็นช่วงที่สตรอว์เบอรี่ออกเยอะก็แน่นอนว่า
      คนชอบทำเค้กต้องสรรหาสูตรเค้กอะไรที่เกี่ยวกับสตรอว์เบอรี่ไปทำค่ะ

      ส่วนบัตเตอร์ครีมเราว่าคนเยอรมันไม่ค่อยทำนะคะ เห็นส่วนมากใช้วิปป์ครีมแต่งเค้ก
      กันเยอะ แต่ก็แล้วแต่คนชอบด้วยน่ะค่ะ อยากไปลองชิมเค้กที่ญี่ปุ่นบ้างจังค่ะ เรา
      ว่าเค้กที่ญี่ปุ่นน่าจะรสชาตินุ่มนวลและอร่อยกว่าเค้กจากฝั่งยุโรปหรืออเมริกาค่ะ ไม่
      เคยไปชิมเองแต่สังเกตจากสูตรเค้กญี่ปุ่นที่เราเคยใช้กูเกิ้ลแปลให้แบบมั่วๆ แล้วมา
      ลองทำตาม รู้สึกว่ารสชาติจะถูกปากเราทุกสูตรเลยค่ะ

      Delete
  16. ชอบของญี่ปุ่นมากกว่าเหมือนกันค่ะ เมื่อก่อนข้างบ้บนเป็นร้านเค้ก ซื้อมาทานเกือบทุกวัน เวลาเค้าอบขนมหอมมากๆ อดใจไม่ไหวจริงๆ
    เท่าที่ทานมา คิดว่าเค้กของทางนี้หนักกว่า ญี่ปุ่นจะเน้นแบบเบาๆ แล้วทางนี้ใส่เหล้าเยอะด้วยค่ะ เค้กชิ้นแรกที่ทานที่เยอรมัน ทำเอาหัวหมุนติ้วเดินไม่ตรงเลยทีเดียว

    ReplyDelete
    Replies
    1. 55 เค้กอะไรน๊อที่คุณใหม่ทานแล้วหัวหมุนติ้ว ตอนมาอยู่ที่นี่ใหม่ๆ เราไม่ชอบ
      กินเค้กเยอะมันเลยค่ะ มันแน่นๆ แห้งๆ หนักๆ ยังไงบอกไม่ถูก บรรดาขนม
      ในร้านเบเกอรี่ก็ไม่ถูกปากสักอย่าง เค้กชนิดแรกที่กินแล้วชอบก็ชีสเค้กส้มเนี่ย
      ล่ะค่ะ เป็นเค้กโปรดของสามี แม่ทำให้แล้วเค้าคะยั้นคะยอให้ลอง หลังชิมแล้ว
      ก็ปรากฏว่าแม่ต้องทำให้กินบ่อยมาก เพราะลูกสะใภ้กินเป็นอยู่อย่างเดียว 55
      แต่พอเริ่มหัดอบขนมเองบ้างหลังจากนั้นก็เป็นคนทำขนมไปปรนเปรอพ่อแม่แทนค่ะ

      Delete
  17. เพิ่งลองทำวันนี้ค่ะ ออกมาดูดีทีเดียว
    ทานร้อนๆ ก็อร่อยนะคะ ขอบคุณสำหรับสูตรค่ะ

    ReplyDelete
    Replies
    1. ไม่เคยทานชีสเค้กตอนร้อนๆ เลยค่ะ นอกจากซูเฟล่ชีสเค้ก อันนั้นชอบมาก
      รู้สึกว่าตอนอบเสร็จใหม่ๆ ยังอุ่นๆ อยู่อร่อยจริงๆ แต่ชีสเค้กทั่วไปชอบตอน
      ที่แช่เย็นไว้สักพักแล้วน่ะค่ะ เนื้อเค้กมันเซ็ตตัวมากขึ้น รสชาติก็เข้มข้นขึ้นด้วย
      แต่ก็นั่นแหละ เป็นความชอบส่วนตัวของแต่ละคนนะคะ

      Delete
  18. คุณอุ้ย ใหม่เอาการบ้านมาส่งค่ะ
    http://monthly.diaryclub.com/20121123/Mandarin-Orange-Cheesecake-by-me

    ReplyDelete
  19. ขอบคุณสำหรับสูตรมากนะคะ

    เราลองทำตามทุกอย่าง แต่พลาดขั้นสุดท้าย เพราะใช้เจลาตินแทน เลยไม่เคลีอบผิวเค้ก

    เดี๋ยวจะลองทำใหม่อีกครั้งดูค่ะ

    ReplyDelete
    Replies
    1. จริงๆ ใช้เจลาตินก็ได้ค่ะ แต่ต้องรอให้เค้กเย็นสนิทก่อนถึงค่อยราดหน้าแล้วเอาเข้าตู้เย็นให้เจลาตินจับตัวค่ะ

      Delete
  20. วันนี้ลองทำแล้ว ตอนราดหน้าเค้ก หน้าเค้กแยกทันทีเลยค่ะ เนื้อด้านในไม่แน่น เละแบบไข่ตุ๋น หนูพลาดตรงไหนคะ ช่วยหนูที แต่รสชาตอร่อยมากค่ะ

    ReplyDelete
    Replies
    1. สงสัยจะยังอบไม่สุกดีค่ะ คราวหน้าลองอบนานกว่านี้นะคะ จนกว่าตรงกลางเค้กจะเซ็ตตัวดีแล้วค่ะ ก่อนราดหน้าเค้กก็รอให้เค้กเย็นสนิทค่อยราดก็ได้ค่ะ พอเนื้อเค้กเซ็ตตัวดีแล้วคราวนี้ราดยังไงหน้าเค้กก็ไม่แยก แล้วก็ไม่เป็นไข่ตุ๋นแน่นอนค่ะ ลองใหม่นะคะ

      Delete