วันนี้มีสูตรมาม่อนเค้กซึ่งเป็นสปองค์เค้กของฟิลิปปินส์ที่เนื้อนุ่มเบา อร่อยและไม่หวานมากนักมาฝากค่ะ เป็นสูตรที่มีส่วนผสมไม่กี่อย่าง วิธีทำก็ง่ายดายไม่สลับซับซ้อนอะไร เปอร์เซ็นต์การล้มเหลวจึงค่อนข้างต่ำ ใครชอบสปองค์เนื้อเบาๆ ลองทำดูนะคะ เราทำหลายรอบแล้ว ลองผสมสองแบบ แบบแรกยุ่งยากกว่านิดนึง เนื้อขนมนุ่มมากแต่ไม่เหมือนฟองน้ำ ส่วนแบบที่สองผสมง่ายกว่าเนื้อขนมจะออกมานุ่มเหมือนฟองน้ำ สรุปว่าเราชอบกินตัวขนมแบบที่ 1 มากกว่าค่ะ เพราะให้ความรู้สึกเหมือนกำลังกินขนมปุยฝ้ายนิดๆ (พยายามทำปุยฝ้ายหลายรอบแล้วแต่ไม่เคยสำเร็จค่ะ ขาดเอสพีช่วย หน้าไม่แตก เนื้อเค้กงี้ทั้งหนักทั้งแน่นเชียว) ภาพวิธีทำที่ลงก็เป็นการผสมแบบแรกนะคะ
ส่วนผสม
1. ไข่ไก่ฟองใหญ่ 2 ฟอง
2. เกลือป่น 1 หยิบมือ
3. น้ำมะนาว 1/2 ชช.
4. น้ำตาลทรายเม็ดละเอียด 60 กรัม
5. น้ำมันพืช 35 กรัม
6. วานิลลา 1/2 ชช.
7. แป้งเค้ก 50 กรัม
8. ผงฟู 1/4 ชช.
9. ผลไม้แห้งเช่น เชอรี่ ลูกเกด ส้ม หรือชีสสำหรับโรยหน้า
วิธีทำ 1
แยกไข่ขาวกับไข่แดงออกจากกัน ร่อนแป้งกับผงฟูรวมกัน 2 ครั้ง อุ่นเตาอบไว้ที่ 180ซี เตรียมถ้วยกระดาษรองพิมพ์มัฟฟินไว้ให้พร้อมค่ะ
ตีไข่ขาวกับเกลือและน้ำมะนาวด้วยความเร็วต่ำสุดประมาณ 20 วินาที พอเริ่มฟูเปลี่ยนเป็นความเร็วสูงสุดแล้วค่อย ๆ ใส่น้ำตาล (30 กรัม)ลงไปทีละน้อย ตีต่อจนน้ำตาลทรายหมดและไข่ขาวตั้งยอดอ่อน พักไว้ก่อน (เราใส่ภาพสลับกันค่ะ จริงๆ ต้องตีไข่ขาวก่อน เสร็จแล้วถึงมาตีไข่แดง ทำอย่างนี้เพราะขี้เกียจล้างหัวตี 55 หากใครขยันล้างก็ตีไข่แดงก่อนแล้วค่อยตีไข่ขาวเหมือนในภาพก้ได้ค่ะ)
ตอนนี้เราก็ไปตีไข่แดงต่อค่ะ โดยเทไข่แดง น้ำมันพืช วานิลา และน้ำตาลส่วนที่เหลือใส่ชามอ่างอีกใบ ตีด้วยความเร็วสูงจนไข่มีลักษณะข้นฟู แล้วจึงนำไข่ขาวมาตะล่อมให้เข้ากับไข่แดง
สุดท้ายก็ร่อนแป้งใส่อ่างไข่ แบ่งใส่สัก 2 ครั้ง ตะล่อมเบามือด้วยตะกร้อมือหรือพายยางให้พอเข้ากัน ไม่มีแป้งเหลือเป็นเม็ดๆ (เราใช้ตะกร้อมือตะล่อมแป้งให้เข้ากับไข่พอเข้ากันก่อน สุดท้ายก็ใช้ไม้พายปาดส่วนผสมตะล่อมวนจากขอบจนถึงก้นอ่างประมาณ 2-3 ครั้งเพื่อความแน่ใจว่าผสมเข้ากันดีแล้วจริงๆ ค่ะ) ขั้นตอนนี้พยายามอย่าคนแรงหรือคนนานนะคะ ไม่งั้นเค้กที่ได้จะเหนียวและไม่นุ่มฟูเท่าที่ควรค่ะ
เสร็จแล้วก็เทใส่พิมพ์ โรยหน้าด้วยผลไม้แห้งต่างๆ (ถ้าชอบ) แล้วนำเข้าอบประมาณ 13-15 นาทีค่ะ วางถาดตรงชั้นกลางของเตาอบนะคะ หากใครชอบชีสก็ไม่ต้องโรยผลไม้ พออบเสร็จเอาออกจากเตาแล้วก็โรยหน้าด้วยชีสขูดค่ะ
วิธีทำ 2
ร่อนแป้งกับผงฟูรวมกัน 2 ครั้ง อุ่นเตาอบไว้ที่ 180ซี เตรียมถ้วยกระดาษรองพิมพ์มัฟฟินไว้ให้พร้อมค่ะ ตอกไข่ใส่ชามผสม ใส่เกลือและน้ำมะนาวลงไป หาชามอ่างอีกใบที่เล็กกว่าอ่างไข่ใส่น้ำร้อนมารองก้นอ่างไข่ ตีไข่ด้วยความเร็วต่ำสุดประมาณ 20 วินาที พอเริ่มฟู เปลี่ยนเป็นความเร็วสูงสุดตีต่อไปเรื่อย ๆ แล้วค่อย ๆ ใส่น้ำตาลลงไปทีละน้อย ตีต่อจนน้ำตาลทรายหมด ไข่มีลักษณะข้นมาก ๆ และมี สีขาวนวล
วันนี้เราโรยหน้าด้วยลูกเกดก่อนอบครึ่งหนึ่ง ส่วนอีกครึ่งหนึ่งโรยชีสหลังอบค่ะ ปกติจะใช้เชดด้าชีสโรย แต่วันนี้ไม่มีเลยใช้ยังเกาด้าแทน ก็พอได้ค่ะแต่ถ้าเป็นเชดด้าจะอร่อยกว่า
กัดให้ดูเนื้อขนมด้านในหน่อย เนื้อมันนุ่มเหมือนปุยนุ่น พอเอาเข้าปากไปแล้วแทบไม่ต้องเคี้ยวเลย กินไปตั้งหลายถ้วยแต่รู้สึกเหมือนไม่ได้กินเลย ฮ่าๆ สรุปว่าอบไป 8-9 ถ้วย อะฮั้นกินคนเดียวก็ 6 ถ้วยแล้วค่ะ ไม่แปลกใจเลยว่า ทำไมถึง... ไม่เอา ไม่พูดต่อดีกว่า อะฮึๆ
สวัสดีค่ะ จำได้ว่าปีใหม่ปีที่แล้วช่วงสิ้นปี ทำมาม่อนเค้กทานกันทั้งครอบครัว
ReplyDeleteสูตรคุณอุ้ย อร่อยมาก ๆ เลยค่ะ สาวน้อยของเราบอก.. ขออีก ขออีก ค่ะ. ....
ฟังแล้วชื๊นนนนนนใจ หน้าบานเป็นจานดาวเทียมเลยค่ะ ขอบคุณนะคะ
ReplyDeleteอยากทำเป็นมั๊งจัง แต่ไม่รู้ว่าต้องมีเตาอบแบบที่ปรับองศาได้หรือป่าว แล้วก็เครื่่องตีแป้ง แบบว่าเพิ่งหัดทำ ต้องซื้อเครื่องใหม่เลยหรือ ไม่รู้จะไ้ปได้กี่น้ำ มีวิธ๊อื่่นหรือป่าวคะ
ReplyDeleteมือใหม่หัดทำ
มาม่อนเค้กทำง่ายค่ะ แต่เรื่องเตาอบแบบปรับอุณหภูมิได้เราจำเป็นต้องมีค่ะ
ReplyDeleteแล้วเครื่องตีไข่ก็สำคัญเหมือนกันเพราะเราต้องตีไข่ให้ฟูข้นเป็นครีมเลยเค้ก
ถึงจะออกมาดี ถ้าใช้ตะกร้อมือธรรมดาตีก็ไม่รู้ว่าต้องใช้เวลาตีนานแค่
ไหนกว่าไข่จะข้นได้ขนาดนั้น กลัวแขนจะหลุดไปซะก่อน 55
แวะมาเยี่ยมชมค่ะ น่าสนใจมากเลยค่ะ จะลองเอาไปทำดู ^^
ReplyDeleteแต่สงสัยวิธีการทำอยู่ข้อนึงคือ ในวิธีที่ 2
หาชามอ่างอีกใบที่เล็กกว่าอ่างไข่ใส่น้ำร้อนมารองก้นอ่างไข่ ตีไข่ด้วยความเร็วต่ำสุด
มันคือต้องหาอ่้างใส่น้ำร้อนมารองก้นอ่างก่อนหรือค่ะ แล้วค่อยเอาไปตี เพราะเวลาตี มันต้องตีด้วยเครื่อง มันเอาอ่างมารองไม่ได้อยุ่แล้ว ดิฉันเข้าใจถูกหรือเปล่าค่ะ
ขอบคุณสำหรับสูตรมากๆ เลยนะค่ะ จะลองเอาไปทำทานดู
ที่เราบอกให้ใช้ชามอ่างใส่น้ำร้อนรองก้นอ่างไข่ตอนตีเพื่อให้ไข่ตีขึ้นฟูง่ายค่ะ
ReplyDeleteแต่ถ้าใช้เครื่องที่ถอดมารองไม่ได้ก็ให้ใส่น้ำร้อนสัก 1 ชต. ลงไปในไข่
แล้วตีก็ช่วยได้เช่นกัน หรือจะไม่ใส่เลยก็ได้เพราะคุณใช้เครื่องตีแบบไม่ต้อง
ถือ ก็ปล่อยให้เครื่องตีไข่ไปเรื่อยๆ จนขึ้นฟูข้นก็ใช้ได้ค่ะ
น่ากินสุดๆ เดี๋ยวจะเอาไปลองทำมั้ง...ขอบคุณสำหรับสูตรค่ะ
ReplyDeleteยินดีค่า
Deleteน้ำยายไหยเลยค่ะ
ReplyDeleteเช็ดด่วนเลยค่า ^^
Deleteน่ากินทำง่ายด้วย เดียวจะไปทำกินบาง
ReplyDeleteคาสิโนออนไลน์
gclub
จีคลับ
ลองทำดูนะคะ
Deleteลองทำดูนะคะ ไม่ยากเลยค่ะ
ReplyDeleteลองทำแล้วค่ะ แต่สูตรอื่น ตอนอบสวยแต่พอเอาออกจากเตาหน้าเหมือนโดนชกมา แล้วก้นเค้กก้อเป็นไต ขอคำแนะนำด้วยค่ะ
ReplyDeleteหน้าเค้กเหมือนโดนชกมา หมายถึงหน้ามันยุบเป็นรอยโบ๋ตรงกลางรึเปล่าคะ
Deleteถ้ายุบแบบนั้นเดาว่าอาจจะยังอุบไม่สุกดีแล้วเอาออกจากเตาเร็วไปก็ได้ค่ะ
คราวหน้าก็ลองอบต่ออีกสัก 1-2 นาทีจนเค้กสุกดีค่อยเอาออกจากเตาค่ะ
และที่เค้กเป็นไตก็คงผสมไม่เข้ากันดี ผสมหนักมือเกินไป หรือผสมนานไป
หน่อยเค้กก็เลยเป็นไตค่ะ
ขอบคุณค่ะ
ReplyDeleteลองทำแล้วค่ะอร่อยมากๆๆๆๆๆ ขอบคุณจริงๆๆ
ReplyDeleteดีใจจังค่ะ ขอบคุณเช่นกันนะคะที่รายงานผลการทดลอง
Deleteสูตรนี้อร่อยมากคะ ขอบคุณมากคะ
ReplyDeleteดีใจจังเลย ขอบคุณเช่นกันค่ะสำหรับคอมเม้นท์
Deleteนู๋อยากลองงทำมั่งง่ะ เด๋วมาดูกานน๊าอร่อยป่าว
ReplyDeleteอร่อยที่ซู้ดดด
ReplyDeleteไวมากนู๋จิ๊บ พี่ยังไม่ตอบเลยทำเสร็จล่ะ อร่อยใช่มั้ยล่า
Deleteอร๊อยยยอร่อยยยค่ะ นุ่มเว่อร์ๆ
Deleteนู๋ต้องใส่แค่ 1/2 พิมพ์เองค่ะ มันฟูขึ้นมาเต็มพิมพ์แล้วก็ล้นออก เสียดายๆ
อยากสอบถามว่า หลัง อบเสร็จ ควรเก็บ รักษา ยังไงให้ หน้ายัง กรอบ. พอดี ตอนอบ แบ่งบ้างส่วน อบกับพิม. Madeleine. ออกมากรอบ อร่อยมากคะ่. ควรเก็บยังไง ให้กรอบ สัก วันสองวันค่ะ.
ReplyDeleteไม่เคยอบมาม่อนแล้วหน้ากรอบสักทีค่ะเลยไม่รู้จะตอบยังไงดี เดาว่าที่ใส่พิมพ์ Madeleine
Deleteแล้วกรอบเพราะพิมพ์มีขนาดเล็ก อบหน้าแห้งดีมันก็เลยกรอบน่ะค่ะ ยังไงคราวหน้าหลังจาก
อบไปได้ 10 นาทีแล้วก็ลองเปิดแค่ไฟบนอย่างเดียว อบต่ออีก 5-7 นาทีหน้าก็อาจจะแห้ง
และกรอบขึ้นค่ะ ตอนเก็บก็แค่เก็บในวัสดุที่มีฝาปิดกันลมเข้าเท่านั้นเองค่ะ
สอบถามหน่อยค่ะ พอมันเย็นตัวแล้วหน้ามันแฉะๆ ทำยังไงค่ะ
ReplyDeleteถ้ายังไม่ข้ามคืนแล้วหน้าแฉะคิดว่าคงต้องเพิ่มเวลาอบขึ้นค่ะ เพราะดูเหมือนหน้าเค้กจะยัง
Deleteไม่แห้งดี แต่ถ้าทิ้งไว้ข้ามคืนแล้วหน้าแฉะหน่อยอันนี้ธรรมดาค่ะ
แวะมาชื่่นชมค่ะ
ReplyDeleteขอบคุณมากนะคะ
Deleteสวัสดีค่ะ
ReplyDeleteขอบคุณสำหรับสูตรขนมต่างๆนะคะ
หนูเป็นมือใหม่ เพิ่งซื้อเตาอบเมื่อช่วงต้นเดือน อุปกรณ์ยังไม่ครบเท่าไหร่ ยังไม่มีเครื่องตีแป้ง อาศัยกำลังแขนตลอดค่ะ อิอิ
ลองทำบัตเตอร์เค้กไปแล้ว2ครั้ง สูตรนี้รสชาติพอดีเลยค่ะ ตอนอบเสร็จใหม่ๆคุณแม่บอกว่ามันฟูไป แต่พอแช่ตู้เย็นไว้1คืน เนื้อเค้กมันโอเคขึ้น แต่ส่วนตัวหนูชอบตอนอบเสร็จใหม่ๆมากกว่า แหะๆ ต่อมาลองทำชิฟฟอนโรลรสกาแฟ ดันลืมใส่ไข่แดงลงไป แล้วผงกาแฟนี่หนูก็ใช้เป็นเนสกาแฟ ปรากฎว่าขมปี๋ จะทำไส้บัตเตอร์ก็ดันเคี่ยวน้ำตาลจนแข็งเลยตีกับเนยไม่ได้ แล้วก็ม้วนเป็นโรลไม่ได้ด้วยค่ะ 55555 ถึงจะไม่เป็นโรล เลยตัดเป็นชิ้นๆ แช่ตู้เย็นไว้ วันรุ่งขึ้นมากินก็ถือว่าโอเคอยู่นะคะ
ส่วนล่าสุดที่ทำก็เป็นชิฟฟอนกล้วยหอม รสชาติกำลังดีค่ะ เนื้อชิฟฟอนก็พอใช้ได้ค่ะ
วันนี้ขอยืมสูตรมาม่อนไปทดลองทำนะคะ
เดี๋ยวจะมารายงานผลค่ะ
ปล. หนูอยากทำมัฟฟินบลูเบอร์รี่ แต่ว่ามีแต่บลูเบอร์รี่กระป๋อง ไม่มีแบบลูกสดๆ ใช้แบบกระป๋องแทนได้ไหมคะ
ขอบคุณอีกรอบสำหรับสูตรดีๆนะคะ
ขอบคุณค่ะ <3
พิม :)
สวัสดีค่ะ ขอบคุณมากนะคะที่แวะมาคุยทักทายและรายงานผลการทดลองค่ะ
Deleteบลูเบอรี่มัฟฟิน ใช้บลูเบอรี่กระป๋องอาจจะไม่ค่อยดีเท่าแบบสดหรือแบบแช่แข็ง
แต่ก็ลองดูนะคะ
วันนี้มาขโมยสูตรนี้ไปทำ อร่อยมากค่ะ ไม่เคยผิดหวังเลยจริงๆ ขอบคุณมากนะคะ
ReplyDeleteขอบคุณเช่นกันนะคะที่แวะมาบอกกัน ดีใจที่สุดเลยค่ะ
Deleteวันนี้ลองหัดทำสูตรนี้ครั้งแรก อร่อยมากค่ะ น้ำตาจะไหล หัดทำเค้ดเนยสดมา 8 ครั้งแล้วยังไม่อร่อยเลยค่ะ
ReplyDeleteดีใจจังเลยค่ะ ส่วนเค้กเนยสู้ต่อไปนะคะ เดี๋ยวก็ออกมาดีค่ะ หรือลองหาสูตรเค้กเนยของคนอื่น
Deleteที่ดังๆ ลองทำดูก็ได้ค่ะ เผื่อจะได้ผลกว่าสูตรนี้
น่าทานมากค่ะ อยากจะลองทำ
ReplyDeleteอบตะแกรงกลาง สำหรับเตาอบทุกขนาดไหมคะ
ขอบคุณค่ะ
น่าทานมากค่ะ อยากจะลองทำบ้าง
ReplyDeleteอบตะแกรงกลาง สำหรับเตาอบทุกขนาดไหมคะ
ขอบคุณค่ะ
เราเคยใช้เตาอบขนาดจิ๋วอบก็ทำได้เหมือนกันค่ะ
Deleteวันนี้ลองทำแล้วค่ะ รสชาติอร่อยดีค่ะ แต่หน้าตายังไม่พอใจ สงสัยเอาออกจากเตาเร็วไปค่ะ
ReplyDeleteมาม่อนต้องอบให้หน้าแห้งเนอะ สีจะได้สวยๆ น่ากิน
Deleteขอบคุณมากค่ะที่แบ่งปันสูตร อร่อยมากๆค่ะ มีปัญหาว่าเวลาโรยลูกเกดก่อนอบมักจะจมในเนื้อเค้กค่ะ
ReplyDeleteถ้าลูกเกดจมน่าจะเป็นเพราะส่วนผสมเหลวเกินไป อาจเกิดจากตีไข่ยังไม่ข้นฟูพอ หรือไม่ก็
Deleteตะล่อมแป้งให้เข้ากับไข่นานเกินไปค่ะ ปกติส่วนผสมก่อนหยอดลงพิมพ์อบจะข้นพอที่จะรับ
น้ำหนักผลไม้แห้งได้ค่ะ โรยผลไม้แล้วก็จะไม่จมลงในเนื้อเค้ก
มีเทคนิคโรยลูกเกดไม่ให้จมในเนื้อเค้กมั๊ยคะ
ReplyDeleteถ้าไม่ได้ใช้เครื่องตีผสมมีแต่ใช้มือตีจะทำได้มั้ยค่ะ
ReplyDeleteเราลองทำดูทำไมแป้งเค้กแข็ง และไม่นุ่มฟูอะค่ะ หรือทำอะไรผิดไปค่ะ...เสียใจจัง
ReplyDelete*เราไม่มีเครื่องผสมใช้พลังมือตีไข่จะเกี่ยวมั่ยค่ะ
เมื่อคืนลองทำแล้วค่ะ รสชาติใช้ได้ค่ะแต่แป้งแข็งกระด้าง
ReplyDeleteไม่ดูนุ่มเหมือนตัวอย่างไม่รู้ว่าทำอะไรผิดไปอะค่ะ
ปล.เราใช้เตาอบลมร้อน แล้วก็ ใช้ที่ไข่ผสมแป้ง ไม่มีเครื่องตีอะค่ะ จะเกี่ยวรึป่าว รบกวนด้วยๆๆๆนะค่ะ
เมื่อคืนลองทำแล้วค่ะ รสชาติใช้ได้ค่ะแต่แป้งแข็งกระด้าง
ReplyDeleteไม่ดูนุ่มเหมือนตัวอย่างไม่รู้ว่าทำอะไรผิดไปอะค่ะ
ปล.เราใช้เตาอบลมร้อน แล้วก็ ใช้ที่ไข่ผสมแป้ง ไม่มีเครื่องตีอะค่ะ จะเกี่ยวรึป่าว รบกวนด้วยๆๆๆนะค่ะ
ถ้าไม่ได้ใช้เครื่องตีผสมมีแต่ใช้มือตีจะทำได้มั้ยค่ะ
ReplyDeleteคุณ Kuntaphan คะ ถ้าไม่มีเครื่องตีไข่ให้ลองทำวิธีที่ 1 ที่แยกตีไข่ขาวกับไข่แดงนะคะ
Deleteจะทำง่ายกว่าวิธีที่ 2 ค่ะ แล้วตอนผสมแป้งกับไข่เข้าด้วยกันต้องตะล่อมเบามือและใช้เวลา
ไม่นานค่ะ ไม่งั้นขนมจะไม่นุ่มฟู