Friday, June 4, 2010

มาม่อนเค้ก : Mamon Cake


วันนี้มีสูตรมาม่อนเค้กซึ่งเป็นสปองค์เค้กของฟิลิปปินส์ที่เนื้อนุ่มเบา อร่อยและไม่หวานมากนักมาฝากค่ะ เป็นสูตรที่มีส่วนผสมไม่กี่อย่าง วิธีทำก็ง่ายดายไม่สลับซับซ้อนอะไร เปอร์เซ็นต์การล้มเหลวจึงค่อนข้างต่ำ ใครชอบสปองค์เนื้อเบาๆ ลองทำดูนะคะ เราทำหลายรอบแล้ว ลองผสมสองแบบ แบบแรกยุ่งยากกว่านิดนึง เนื้อขนมนุ่มมากแต่ไม่เหมือนฟองน้ำ ส่วนแบบที่สองผสมง่ายกว่าเนื้อขนมจะออกมานุ่มเหมือนฟองน้ำ สรุปว่าเราชอบกินตัวขนมแบบที่ 1 มากกว่าค่ะ เพราะให้ความรู้สึกเหมือนกำลังกินขนมปุยฝ้ายนิดๆ (พยายามทำปุยฝ้ายหลายรอบแล้วแต่ไม่เคยสำเร็จค่ะ ขาดเอสพีช่วย หน้าไม่แตก เนื้อเค้กงี้ทั้งหนักทั้งแน่นเชียว) ภาพวิธีทำที่ลงก็เป็นการผสมแบบแรกนะคะ

ส่วนผสม

1. ไข่ไก่ฟองใหญ่ 2 ฟอง
2. เกลือป่น 1 หยิบมือ
3. น้ำมะนาว 1/2 ชช.
4. น้ำตาลทรายเม็ดละเอียด 60 กรัม
5. น้ำมันพืช 35 กรัม
6. วานิลลา 1/2 ชช.
7. แป้งเค้ก 50 กรัม
8. ผงฟู 1/4 ชช.
9. ผลไม้แห้งเช่น เชอรี่ ลูกเกด ส้ม หรือชีสสำหรับโรยหน้า

วิธีทำ 1



แยกไข่ขาวกับไข่แดงออกจากกัน ร่อนแป้งกับผงฟูรวมกัน 2 ครั้ง อุ่นเตาอบไว้ที่ 180ซี เตรียมถ้วยกระดาษรองพิมพ์มัฟฟินไว้ให้พร้อมค่ะ 

ตีไข่ขาวกับเกลือและน้ำมะนาวด้วยความเร็วต่ำสุดประมาณ 20 วินาที พอเริ่มฟูเปลี่ยนเป็นความเร็วสูงสุดแล้วค่อย ๆ ใส่น้ำตาล (30 กรัม)ลงไปทีละน้อย ตีต่อจนน้ำตาลทรายหมดและไข่ขาวตั้งยอดอ่อน พักไว้ก่อน    (เราใส่ภาพสลับกันค่ะ จริงๆ ต้องตีไข่ขาวก่อน เสร็จแล้วถึงมาตีไข่แดง ทำอย่างนี้เพราะขี้เกียจล้างหัวตี 55 หากใครขยันล้างก็ตีไข่แดงก่อนแล้วค่อยตีไข่ขาวเหมือนในภาพก้ได้ค่ะ)
    ตอนนี้เราก็ไปตีไข่แดงต่อค่ะ โดยเทไข่แดง น้ำมันพืช วานิลา และน้ำตาลส่วนที่เหลือใส่ชามอ่างอีกใบ ตีด้วยความเร็วสูงจนไข่มีลักษณะข้นฟู แล้วจึงนำไข่ขาวมาตะล่อมให้เข้ากับไข่แดง 


    สุดท้ายก็ร่อนแป้งใส่อ่างไข่ แบ่งใส่สัก 2 ครั้ง ตะล่อมเบามือด้วยตะกร้อมือหรือพายยางให้พอเข้ากัน ไม่มีแป้งเหลือเป็นเม็ดๆ (เราใช้ตะกร้อมือตะล่อมแป้งให้เข้ากับไข่พอเข้ากันก่อน สุดท้ายก็ใช้ไม้พายปาดส่วนผสมตะล่อมวนจากขอบจนถึงก้นอ่างประมาณ 2-3 ครั้งเพื่อความแน่ใจว่าผสมเข้ากันดีแล้วจริงๆ ค่ะ) ขั้นตอนนี้พยายามอย่าคนแรงหรือคนนานนะคะ ไม่งั้นเค้กที่ได้จะเหนียวและไม่นุ่มฟูเท่าที่ควรค่ะ    
      เสร็จแล้วก็เทใส่พิมพ์ โรยหน้าด้วยผลไม้แห้งต่างๆ (ถ้าชอบ) แล้วนำเข้าอบประมาณ 13-15 นาทีค่ะ วางถาดตรงชั้นกลางของเตาอบนะคะ หากใครชอบชีสก็ไม่ต้องโรยผลไม้ พออบเสร็จเอาออกจากเตาแล้วก็โรยหน้าด้วยชีสขูดค่ะ 


        วิธีทำ 2 

        ร่อนแป้งกับผงฟูรวมกัน 2 ครั้ง อุ่นเตาอบไว้ที่ 180ซี เตรียมถ้วยกระดาษรองพิมพ์มัฟฟินไว้ให้พร้อมค่ะ ตอกไข่ใส่ชามผสม ใส่เกลือและน้ำมะนาวลงไป หาชามอ่างอีกใบที่เล็กกว่าอ่างไข่ใส่น้ำร้อนมารองก้นอ่างไข่ ตีไข่ด้วยความเร็วต่ำสุดประมาณ 20 วินาที พอเริ่มฟู เปลี่ยนเป็นความเร็วสูงสุดตีต่อไปเรื่อย ๆ แล้วค่อย ๆ ใส่น้ำตาลลงไปทีละน้อย ตีต่อจนน้ำตาลทรายหมด ไข่มีลักษณะข้นมาก ๆ และมี สีขาวนวล 
          จากนั้นค่อยๆ เทน้ำมันพืชและวานิลลาลงไป ตีต่อจนน้ำมันเข้ากับไข่ดี แล้วก็หยุดค่ะ สุดท้ายค่อยๆ ร่อนแป้งลงในอ่างไข่ แบ่งใส่สัก 2 ครั้งนะคะ ตะล่อมอย่างเบามือให้เข้ากันดี ไม่มีแป้งเหลือเป็นเม็ดๆ แล้วก็เทใส่พิมพ์ โรยหน้าด้วยผลไม้แห้งต่างๆ แล้วนำเข้าอบประมาณ 13-15 นาทีค่ะ หากใครชอบชีส ก็ไม่ต้องโรยผลไม้ พออบเสร็จเอาออกจากเตาแล้วก็โรยหน้าด้วยเชดด้าชีสทันทีค่ะ

              วันนี้เราโรยหน้าด้วยลูกเกดก่อนอบครึ่งหนึ่ง ส่วนอีกครึ่งหนึ่งโรยชีสหลังอบค่ะ ปกติจะใช้เชดด้าชีสโรย แต่วันนี้ไม่มีเลยใช้ยังเกาด้าแทน ก็พอได้ค่ะแต่ถ้าเป็นเชดด้าจะอร่อยกว่า



              กัดให้ดูเนื้อขนมด้านในหน่อย เนื้อมันนุ่มเหมือนปุยนุ่น พอเอาเข้าปากไปแล้วแทบไม่ต้องเคี้ยวเลย กินไปตั้งหลายถ้วยแต่รู้สึกเหมือนไม่ได้กินเลย ฮ่าๆ สรุปว่าอบไป 8-9 ถ้วย อะฮั้นกินคนเดียวก็ 6 ถ้วยแล้วค่ะ ไม่แปลกใจเลยว่า ทำไมถึง... ไม่เอา ไม่พูดต่อดีกว่า อะฮึๆ




              50 comments:

              1. สวัสดีค่ะ จำได้ว่าปีใหม่ปีที่แล้วช่วงสิ้นปี ทำมาม่อนเค้กทานกันทั้งครอบครัว
                สูตรคุณอุ้ย อร่อยมาก ๆ เลยค่ะ สาวน้อยของเราบอก.. ขออีก ขออีก ค่ะ. ....

                ReplyDelete
              2. ฟังแล้วชื๊นนนนนนใจ หน้าบานเป็นจานดาวเทียมเลยค่ะ ขอบคุณนะคะ

                ReplyDelete
              3. มือใหม่หัดทำDecember 28, 2010 at 10:08 AM

                อยากทำเป็นมั๊งจัง แต่ไม่รู้ว่าต้องมีเตาอบแบบที่ปรับองศาได้หรือป่าว แล้วก็เครื่่องตีแป้ง แบบว่าเพิ่งหัดทำ ต้องซื้อเครื่องใหม่เลยหรือ ไม่รู้จะไ้ปได้กี่น้ำ มีวิธ๊อื่่นหรือป่าวคะ

                มือใหม่หัดทำ

                ReplyDelete
              4. มาม่อนเค้กทำง่ายค่ะ แต่เรื่องเตาอบแบบปรับอุณหภูมิได้เราจำเป็นต้องมีค่ะ
                แล้วเครื่องตีไข่ก็สำคัญเหมือนกันเพราะเราต้องตีไข่ให้ฟูข้นเป็นครีมเลยเค้ก
                ถึงจะออกมาดี ถ้าใช้ตะกร้อมือธรรมดาตีก็ไม่รู้ว่าต้องใช้เวลาตีนานแค่
                ไหนกว่าไข่จะข้นได้ขนาดนั้น กลัวแขนจะหลุดไปซะก่อน 55

                ReplyDelete
              5. แวะมาเยี่ยมชมค่ะ น่าสนใจมากเลยค่ะ จะลองเอาไปทำดู ^^
                แต่สงสัยวิธีการทำอยู่ข้อนึงคือ ในวิธีที่ 2

                หาชามอ่างอีกใบที่เล็กกว่าอ่างไข่ใส่น้ำร้อนมารองก้นอ่างไข่ ตีไข่ด้วยความเร็วต่ำสุด

                มันคือต้องหาอ่้างใส่น้ำร้อนมารองก้นอ่างก่อนหรือค่ะ แล้วค่อยเอาไปตี เพราะเวลาตี มันต้องตีด้วยเครื่อง มันเอาอ่างมารองไม่ได้อยุ่แล้ว ดิฉันเข้าใจถูกหรือเปล่าค่ะ

                ขอบคุณสำหรับสูตรมากๆ เลยนะค่ะ จะลองเอาไปทำทานดู

                ReplyDelete
              6. ที่เราบอกให้ใช้ชามอ่างใส่น้ำร้อนรองก้นอ่างไข่ตอนตีเพื่อให้ไข่ตีขึ้นฟูง่ายค่ะ
                แต่ถ้าใช้เครื่องที่ถอดมารองไม่ได้ก็ให้ใส่น้ำร้อนสัก 1 ชต. ลงไปในไข่
                แล้วตีก็ช่วยได้เช่นกัน หรือจะไม่ใส่เลยก็ได้เพราะคุณใช้เครื่องตีแบบไม่ต้อง
                ถือ ก็ปล่อยให้เครื่องตีไข่ไปเรื่อยๆ จนขึ้นฟูข้นก็ใช้ได้ค่ะ

                ReplyDelete
              7. น่ากินสุดๆ เดี๋ยวจะเอาไปลองทำมั้ง...ขอบคุณสำหรับสูตรค่ะ

                ReplyDelete
              8. น้ำยายไหยเลยค่ะ

                ReplyDelete
              9. น่ากินทำง่ายด้วย เดียวจะไปทำกินบาง

                คาสิโนออนไลน์
                gclub
                จีคลับ

                ReplyDelete
              10. ลองทำดูนะคะ ไม่ยากเลยค่ะ

                ReplyDelete
              11. ลองทำแล้วค่ะ แต่สูตรอื่น ตอนอบสวยแต่พอเอาออกจากเตาหน้าเหมือนโดนชกมา แล้วก้นเค้กก้อเป็นไต ขอคำแนะนำด้วยค่ะ

                ReplyDelete
                Replies
                1. หน้าเค้กเหมือนโดนชกมา หมายถึงหน้ามันยุบเป็นรอยโบ๋ตรงกลางรึเปล่าคะ
                  ถ้ายุบแบบนั้นเดาว่าอาจจะยังอุบไม่สุกดีแล้วเอาออกจากเตาเร็วไปก็ได้ค่ะ
                  คราวหน้าก็ลองอบต่ออีกสัก 1-2 นาทีจนเค้กสุกดีค่อยเอาออกจากเตาค่ะ
                  และที่เค้กเป็นไตก็คงผสมไม่เข้ากันดี ผสมหนักมือเกินไป หรือผสมนานไป
                  หน่อยเค้กก็เลยเป็นไตค่ะ

                  Delete
              12. ลองทำแล้วค่ะอร่อยมากๆๆๆๆๆ ขอบคุณจริงๆๆ

                ReplyDelete
                Replies
                1. ดีใจจังค่ะ ขอบคุณเช่นกันนะคะที่รายงานผลการทดลอง

                  Delete
              13. สูตรนี้อร่อยมากคะ ขอบคุณมากคะ

                ReplyDelete
                Replies
                1. ดีใจจังเลย ขอบคุณเช่นกันค่ะสำหรับคอมเม้นท์

                  Delete
              14. นู๋อยากลองงทำมั่งง่ะ เด๋วมาดูกานน๊าอร่อยป่าว

                ReplyDelete
              15. อร่อยที่ซู้ดดด

                ReplyDelete
                Replies
                1. ไวมากนู๋จิ๊บ พี่ยังไม่ตอบเลยทำเสร็จล่ะ อร่อยใช่มั้ยล่า

                  Delete
                2. อร๊อยยยอร่อยยยค่ะ นุ่มเว่อร์ๆ
                  นู๋ต้องใส่แค่ 1/2 พิมพ์เองค่ะ มันฟูขึ้นมาเต็มพิมพ์แล้วก็ล้นออก เสียดายๆ

                  Delete
              16. อยากสอบถามว่า หลัง อบเสร็จ ควรเก็บ รักษา ยังไงให้ หน้ายัง กรอบ. พอดี ตอนอบ แบ่งบ้างส่วน อบกับพิม. Madeleine. ออกมากรอบ อร่อยมากคะ่. ควรเก็บยังไง ให้กรอบ สัก วันสองวันค่ะ.

                ReplyDelete
                Replies
                1. ไม่เคยอบมาม่อนแล้วหน้ากรอบสักทีค่ะเลยไม่รู้จะตอบยังไงดี เดาว่าที่ใส่พิมพ์ Madeleine
                  แล้วกรอบเพราะพิมพ์มีขนาดเล็ก อบหน้าแห้งดีมันก็เลยกรอบน่ะค่ะ ยังไงคราวหน้าหลังจาก
                  อบไปได้ 10 นาทีแล้วก็ลองเปิดแค่ไฟบนอย่างเดียว อบต่ออีก 5-7 นาทีหน้าก็อาจจะแห้ง
                  และกรอบขึ้นค่ะ ตอนเก็บก็แค่เก็บในวัสดุที่มีฝาปิดกันลมเข้าเท่านั้นเองค่ะ

                  Delete
              17. สอบถามหน่อยค่ะ พอมันเย็นตัวแล้วหน้ามันแฉะๆ ทำยังไงค่ะ

                ReplyDelete
                Replies
                1. ถ้ายังไม่ข้ามคืนแล้วหน้าแฉะคิดว่าคงต้องเพิ่มเวลาอบขึ้นค่ะ เพราะดูเหมือนหน้าเค้กจะยัง
                  ไม่แห้งดี แต่ถ้าทิ้งไว้ข้ามคืนแล้วหน้าแฉะหน่อยอันนี้ธรรมดาค่ะ

                  Delete
              18. แวะมาชื่่นชมค่ะ

                ReplyDelete
              19. สวัสดีค่ะ
                ขอบคุณสำหรับสูตรขนมต่างๆนะคะ
                หนูเป็นมือใหม่ เพิ่งซื้อเตาอบเมื่อช่วงต้นเดือน อุปกรณ์ยังไม่ครบเท่าไหร่ ยังไม่มีเครื่องตีแป้ง อาศัยกำลังแขนตลอดค่ะ อิอิ
                ลองทำบัตเตอร์เค้กไปแล้ว2ครั้ง สูตรนี้รสชาติพอดีเลยค่ะ ตอนอบเสร็จใหม่ๆคุณแม่บอกว่ามันฟูไป แต่พอแช่ตู้เย็นไว้1คืน เนื้อเค้กมันโอเคขึ้น แต่ส่วนตัวหนูชอบตอนอบเสร็จใหม่ๆมากกว่า แหะๆ ต่อมาลองทำชิฟฟอนโรลรสกาแฟ ดันลืมใส่ไข่แดงลงไป แล้วผงกาแฟนี่หนูก็ใช้เป็นเนสกาแฟ ปรากฎว่าขมปี๋ จะทำไส้บัตเตอร์ก็ดันเคี่ยวน้ำตาลจนแข็งเลยตีกับเนยไม่ได้ แล้วก็ม้วนเป็นโรลไม่ได้ด้วยค่ะ 55555 ถึงจะไม่เป็นโรล เลยตัดเป็นชิ้นๆ แช่ตู้เย็นไว้ วันรุ่งขึ้นมากินก็ถือว่าโอเคอยู่นะคะ
                ส่วนล่าสุดที่ทำก็เป็นชิฟฟอนกล้วยหอม รสชาติกำลังดีค่ะ เนื้อชิฟฟอนก็พอใช้ได้ค่ะ
                วันนี้ขอยืมสูตรมาม่อนไปทดลองทำนะคะ
                เดี๋ยวจะมารายงานผลค่ะ
                ปล. หนูอยากทำมัฟฟินบลูเบอร์รี่ แต่ว่ามีแต่บลูเบอร์รี่กระป๋อง ไม่มีแบบลูกสดๆ ใช้แบบกระป๋องแทนได้ไหมคะ
                ขอบคุณอีกรอบสำหรับสูตรดีๆนะคะ
                ขอบคุณค่ะ <3
                พิม :)

                ReplyDelete
                Replies
                1. สวัสดีค่ะ ขอบคุณมากนะคะที่แวะมาคุยทักทายและรายงานผลการทดลองค่ะ
                  บลูเบอรี่มัฟฟิน ใช้บลูเบอรี่กระป๋องอาจจะไม่ค่อยดีเท่าแบบสดหรือแบบแช่แข็ง
                  แต่ก็ลองดูนะคะ

                  Delete
              20. วันนี้มาขโมยสูตรนี้ไปทำ อร่อยมากค่ะ ไม่เคยผิดหวังเลยจริงๆ ขอบคุณมากนะคะ

                ReplyDelete
                Replies
                1. ขอบคุณเช่นกันนะคะที่แวะมาบอกกัน ดีใจที่สุดเลยค่ะ

                  Delete
              21. วันนี้ลองหัดทำสูตรนี้ครั้งแรก อร่อยมากค่ะ น้ำตาจะไหล หัดทำเค้ดเนยสดมา 8 ครั้งแล้วยังไม่อร่อยเลยค่ะ

                ReplyDelete
                Replies
                1. ดีใจจังเลยค่ะ ส่วนเค้กเนยสู้ต่อไปนะคะ เดี๋ยวก็ออกมาดีค่ะ หรือลองหาสูตรเค้กเนยของคนอื่น
                  ที่ดังๆ ลองทำดูก็ได้ค่ะ เผื่อจะได้ผลกว่าสูตรนี้

                  Delete
              22. น่าทานมากค่ะ อยากจะลองทำ
                อบตะแกรงกลาง สำหรับเตาอบทุกขนาดไหมคะ
                ขอบคุณค่ะ

                ReplyDelete
              23. น่าทานมากค่ะ อยากจะลองทำบ้าง
                อบตะแกรงกลาง สำหรับเตาอบทุกขนาดไหมคะ
                ขอบคุณค่ะ

                ReplyDelete
                Replies
                1. เราเคยใช้เตาอบขนาดจิ๋วอบก็ทำได้เหมือนกันค่ะ

                  Delete
              24. วันนี้ลองทำแล้วค่ะ รสชาติอร่อยดีค่ะ แต่หน้าตายังไม่พอใจ สงสัยเอาออกจากเตาเร็วไปค่ะ

                ReplyDelete
                Replies
                1. มาม่อนต้องอบให้หน้าแห้งเนอะ สีจะได้สวยๆ น่ากิน

                  Delete
              25. ขอบคุณมากค่ะที่แบ่งปันสูตร อร่อยมากๆค่ะ มีปัญหาว่าเวลาโรยลูกเกดก่อนอบมักจะจมในเนื้อเค้กค่ะ

                ReplyDelete
                Replies
                1. ถ้าลูกเกดจมน่าจะเป็นเพราะส่วนผสมเหลวเกินไป อาจเกิดจากตีไข่ยังไม่ข้นฟูพอ หรือไม่ก็
                  ตะล่อมแป้งให้เข้ากับไข่นานเกินไปค่ะ ปกติส่วนผสมก่อนหยอดลงพิมพ์อบจะข้นพอที่จะรับ
                  น้ำหนักผลไม้แห้งได้ค่ะ โรยผลไม้แล้วก็จะไม่จมลงในเนื้อเค้ก

                  Delete
              26. มีเทคนิคโรยลูกเกดไม่ให้จมในเนื้อเค้กมั๊ยคะ

                ReplyDelete
              27. ถ้าไม่ได้ใช้เครื่องตีผสมมีแต่ใช้มือตีจะทำได้มั้ยค่ะ

                ReplyDelete
              28. เราลองทำดูทำไมแป้งเค้กแข็ง และไม่นุ่มฟูอะค่ะ หรือทำอะไรผิดไปค่ะ...เสียใจจัง

                *เราไม่มีเครื่องผสมใช้พลังมือตีไข่จะเกี่ยวมั่ยค่ะ

                ReplyDelete
              29. เมื่อคืนลองทำแล้วค่ะ รสชาติใช้ได้ค่ะแต่แป้งแข็งกระด้าง
                ไม่ดูนุ่มเหมือนตัวอย่างไม่รู้ว่าทำอะไรผิดไปอะค่ะ

                ปล.เราใช้เตาอบลมร้อน แล้วก็ ใช้ที่ไข่ผสมแป้ง ไม่มีเครื่องตีอะค่ะ จะเกี่ยวรึป่าว รบกวนด้วยๆๆๆนะค่ะ

                ReplyDelete
              30. เมื่อคืนลองทำแล้วค่ะ รสชาติใช้ได้ค่ะแต่แป้งแข็งกระด้าง
                ไม่ดูนุ่มเหมือนตัวอย่างไม่รู้ว่าทำอะไรผิดไปอะค่ะ

                ปล.เราใช้เตาอบลมร้อน แล้วก็ ใช้ที่ไข่ผสมแป้ง ไม่มีเครื่องตีอะค่ะ จะเกี่ยวรึป่าว รบกวนด้วยๆๆๆนะค่ะ

                ReplyDelete
              31. ถ้าไม่ได้ใช้เครื่องตีผสมมีแต่ใช้มือตีจะทำได้มั้ยค่ะ

                ReplyDelete
                Replies
                1. คุณ Kuntaphan คะ ถ้าไม่มีเครื่องตีไข่ให้ลองทำวิธีที่ 1 ที่แยกตีไข่ขาวกับไข่แดงนะคะ
                  จะทำง่ายกว่าวิธีที่ 2 ค่ะ แล้วตอนผสมแป้งกับไข่เข้าด้วยกันต้องตะล่อมเบามือและใช้เวลา
                  ไม่นานค่ะ ไม่งั้นขนมจะไม่นุ่มฟู

                  Delete