Monday, April 2, 2012

ขนมปังฟักทองไส้คัสตาร์ดฟักทอง : Pumpkin Buns with Pumpkin Custard Filling


สวัสดีค่ะเพื่อนๆ ทุกคน ขอโทษด้วยนะคะที่หายหน้าหายตาไม่ได้อัพบล็อกไปชาติเศษ พักหลังๆ ไม่ค่อยรู้สึกอยากทำหรืออยากกินอะไรเป็นพิเศษเหมือนเมื่อก่อน อารมณ์ที่เคยดี๊ด๊าเวลาเข้าครัวก็เลยจางๆ หายไปด้วย แต่ก็กลัวว่าหายไปนานๆ แล้วหยากไย่จะขึ้นบล็อก เลยต้องหาเรื่องนำของเล่นอะไรใหม่ๆ มาฝากเพื่อนๆ กันนิดนึง

วันนี้เรามาทำขนมปังฟักทองเนื้อเหนียวนุ่มอร่อยๆ กันดีกว่านะคะ ขนมปังฟักทองนี้มีที่มาค่ะ คือจริงๆ แล้วตอนแรกที่ซื้อฟักทองมาเพราะนึกอยากกินแกงเผ็ดฟักทอง แต่ปรากฏว่าฟักทองที่ซื้อมารสชาติมันไม่ค่อยดีนัก ไม่มันจัดเหมือนฟักทองบ้านเราน่ะค่ะ นำไปทำอาหารอะไรก็คงไม่อร่อยเท่าที่ควร สรุปก็เลยจับมาแปลงร่างเป็นขนมปังฟักทองเนี่ยล่ะค่ะ ได้ขนมปังสีสวยนุ่มอร่อย คนทำติดใจจัด ทำกิน 3 วันติดกันเลยค่ะ ว่าแล้วเราก็มาดูสูตรกันดีกว่านะคะ

ส่วนผสมแป้งโดว์
  • นมอุ่น 20 มล.
  • ยีสต์สด 10 กรัม (ยีสต์แห้ง 3 กรัม)
  • แป้งขนมปัง 200 กรัม
  • น้ำตาลทราย 30 กรัม
  • ฟักทองนึ่งหรือต้มสุกบดละเอียด 120 กรัม
  • เนย 20 กรัม
  • วานิลาเอ็กซ์แทร็ค 1/2 ชช.
  • เกลือ 1/2 ชช.
วิธีทำ

หากใครใช้ยีสต์แห้งระหว่างเตรียมส่วนผสมอื่นๆ ก็ให้ทำการหมักยีสต์ก่อนนะคะ โดยใส่ยีสต์ลงนมอุ่น แล้วใส่น้ำตาลทรายลงไปสักหยิบมือ คนให้เข้ากันแล้วพักไว้ในที่อุ่นประมาณ 10 นาทีหรือจนกว่ายีสต์จะขึ้นฟูค่ะ


เมื่อเตรียมส่วนผสมเสร็จแล้ว และยีสต์แห้งที่หมักไว้ได้ที่แล้ว ก็จัดการใส่แป้ง น้ำตาลทราย และเกลือป่นในอ่างผสม ตามด้วยยีสต์ที่หมักไว้ (ใครใช้ยีสต์สดก็แค่บี้ยีสต์เป็นก้อนเล็กๆ หรือใครจะใส่ไปในนมอุ่นแล้วคนให้ละลายก่อนก็ได้เหมือนกันค่ะ) และฟักทองบดค่ะ ใช้เครื่องตีหัวตะขอตีส่วนผสมให้เข้ากันด้วยความเร็วต่ำ 2 นาที แล้วคลุมผ้าพักไว้ในที่อุ่นประมาณ 10 นาทีค่ะ


จากนั้นใส่เนย วานิลา และเกลือป่นลงไปในอ่างแป้ง แล้วนวดส่วนผสมให้เข้ากัน จนแป้งมีลักษณะเนียน ยืดหยุ่น ไม่ติดมือและหลุดออกจากขอบอ่างโดยง่าย สามารถแผ่เป็นฟิล์มบางๆ ได้โดยไม่ขาดจากกันค่ะ (เราใช้เวลานวดประมาณ 10 นาที) จากนั้นก็รวบแป้งเป็นก้อนกลม ทาเนยที่อ่างบางๆ ให้ทั่ว แล้วใส่แป้งที่นวดไว้กลับลงไปในอ่าง คลุมผ้าพักไว้ประมาณ 60 นาที หรือจนแป้งขึ้น 2 เท่าค่ะ ระหว่างนั้นก็ไปกวนพุดดิ้งทำไส้ขนมปังกันค่ะ

ส่วนผสมไส้
  • นมไขมันเต็ม 100 มล. (ถ้ามีวิปปิ้งครีมก็ใช้ได้ค่ะ อร่อยกว่าด้วย)
  • ไข่ไก่ 1 ฟอง
  • น้ำตาลทราย 2 ชต.
  • แป้งเค้ก 2 ชช.
  • เนยเค็ม 1 ชช.
  • กลิ่นวานิลาบัทเทอร์ 1/2 ชช.
  • ฟักทองปอกเปลือกหั่นเต๋าเล็กนึ่งสุก 1/3 ถ้วย
วิธีทำไส้

ใส่ไข่ไก่และน้ำตาลทรายในชามอ่าง ใช้ตะกร้อมือตีให้เข้ากัน ค่อยๆ เทนม (หรือวิปปิ้งครีม)ใส่ลงไปคนให้เข้ากัน จากนั้นใส่แป้งคนไปเรื่อยๆ จนแป้งละลายหมด กรองผ่านผ้าขาวบางใส่ในหม้อ นำไปตุ๋นไฟอ่อน คนตลอดเวลาจนส่วนผสมข้น ชิมรสดู หากพอใจก็ปิดไฟ ใส่เนยและวานิลาบัทเทอร์ คนให้เข้ากัน ใส่ฟักทองที่นึ่งสุกแล้วลงไปคน 2-3 ทีพอเข้ากัน ใช้พลาสติกใสคลุมหน้าคัสตาร์ด พักไว้ก่อนค่ะ (รูปที่ 6 ด้านบนนะคะ)


เมื่อแป้งขึ้นดีแล้วก็นำมาคลึงให้ทั่วเพื่อไล่ลม จากนั้นตัดแป้งแบ่งเป็น 10 ก้อนเท่าๆ กัน (เราได้ก้อนละ 40 กรัมค่ะ) คลึงแป้งแต่ละก้อนเป็นเส้นยาวๆ (รูปที่ 7) วางเรียงลำดับก่อนหลังด้วยนะคะ แป้งที่คลึงแล้วอย่าลืมคลุมพลาสติกใสกันลมไว้ด้วยค่ะ

จากนั้นก็นำแป้งก้อนแรกที่เราคลึงมาขึ้นรูป โดยจับปลายแป้งทั้งสองข้างมาสอดเข้าด้วยกันเป็นปม (รูปที่ 8) แล้วสานไปเรื่อยๆ จนสุดปลายแป้งทั้งสองด้าน (รูปที่ 9) ก่อนนำไปใส่พิมพ์มัฟฟินที่ทาเนยบางๆ จนทั่วแล้ว (ทางที่ดีใช้พิมพ์มัฟฟินธรรมดาแบบที่มีผิวเรียบขนมปังจะออกมาสวยกว่าพิมพ์ที่มีลายแบบในรูปที่ 10 นะคะ) บีบไส้ลงไปตรงกลาง แล้วใช้พลาสติกใสคลุมพิมพ์กันลมเข้าค่ะ พักไว้ในที่อุ่นให้ขึ้นประมาณ 30 นาที หรือจนกว่าแป้งจะขึ้นอย่างเห็นได้ชัด (ประมาณเท่าครึ่งของตอนขึ้นรูป)

จากนั้นอุ่นเตาอบไว้ที่ 175 องศาเซลเซียส หากใครอยากให้หน้าขนมปังเข้มก็ใช้ไข่แดงผสมนมสดนิดหน่อยทาหน้าขนมก่อนอบนะคะ แต่เราชอบสวยตามธรรมชาติเลยไม่ได้ทา นำพิมพ์ขนมวางในชั้นกลางของเตาอบ ใช้เวลาอบประมาณ 12-15 นาที จนขนมปังสุก นำออกจากเตาอบ ทาเนยที่หน้าขนมปังให้ทั่วแล้วเอาออกจากพิมพ์ วางบนตะแกรง พอขนมอุ่นก็หม่ำได้เลยค่ะ

เนื้อขนมปังนุ่มเหนียวอร่อยจริงๆ ค่ะ ยิ่งมารวมกับไส้คัสตาร์ดฟักทองด้วยแล้วยิ่งอร่อย เข้ากันดีจริงๆ เราเป็นคนชอบขนมปังประมาณนี้อยู่ด้วย กินเพลินสงสารพุงตัวเองจริงๆ ฮ่าๆ


ผ่าให้ดูข้างในหน่อย ตอนนี้ขนมยังอุ่นอยู่ นุ่มเกินผ่ายากมาก รูปไม่สวยเลยเนอะ ลองใหม่ ผ่าไม่ได้ก็ใช้ฉีกแทนแล้วถ่ายใหม่ ผลก็คือแย่กว่าเดิม ฮ่าๆ แต่ช่างเถอะ ยังไงก็อร่อยจริงๆ ค่ะ เพื่อนๆ ลองทำดูนะคะ



16 comments:

  1. น่าทานมากๆ เลยค่ะ ไว้จะลองทำดูบ้าง

    พอดีพรุ่งนี้จะทำข้าวเหนียวมูลค่ะ อยากถามว่า ที่เยอรมันจะหาซื้อสารส้มได้ที่ไหนคะ?
    ขอบคุณมากๆ ค่ะ

    ReplyDelete
    Replies
    1. ก้อนสารส้ม ภาษาเยอรมันเรียกว่า Alaunstein ค่ะ ปกติจะไม่มีขายตามร้านค้าทั่วไป แต่สั่งซื้อได้
      ในอีเบย์ค่ะ (แต่แพงมากกก) เราทำข้าวเหนียวมูนกินบ่อยๆ แต่ไม่เคยขัดสารส้มเลยค่ะ ข้าวเหนียวก็
      ออกมาเงาใสไม่ต่างกันมากนักหรอกค่ะ

      Delete
  2. ทำแล้วค่ะอร่อยอย่างคุณอุ้ยว่าเลยค่ะคงต้องทำอีกแน่นอน คุณอุ้ยมีสูตรขนมปัง Sauerteigbrot หรือเปล่าค่ะคือเมือสองปีที่แล้วซื้อที่ห้างทุกที่แต่ตอนนี้ไม่มีขายแล้วเลยรบกวนคุณอุ้ยช่วยบอกสูตรให้ที่และขอขอบคุณไว้ณที่นี้ด้วยนะค่ะ

    ReplyDelete
  3. คุณอุ้ยมีเรื่องรบกวนถามอีกแล้วซื้อ Sauerteig แบบแห้งมาให้ใส่สามร้อยกรัมเลยหรือค่ะ เพราะดูข้างซองที่เขียนไว้ว่าแป้งเจ็ดร้อยกรัมเลยคิดว่าตัวเองซื้อผิดหรือเปล่าก็ไม่รู้และขอขอบคุณสูตรที่ลงให้ไว้ทันใจจริงๆๆ บางที่คิดว่าคุณอุ้ยเป็นนางฟ้าในดวงใจจริงๆๆ

    ReplyDelete
    Replies
    1. สูตร Sauerteigbrot นะคะ

      450 กรัม Roggenmehl, Type 1150 (แป้งไรย์ เป็นแป้งที่มีเมล็ดธัญพืชผสมค่ะ)
      225 กรัม Weizenmehl (Weizenvollkornmehl) (แป้งโฮลวีท)
      300 กรัม Sauerteig* (แบบหมักเอง)
      400 มล. Wasser (น้ำอุ่น)
      16 กรัม Hefe (ยีสต์แห้ง) สูตรข้างบนพิมพ์ผิดเป็นยีสต์สด
      1 ชต. Honig (น้ำผึ้ง)
      2 ชช. Salz (เกลือ)
      2 กำมือ Leinsamen (ถ้าไม่ชอบก็ไม่ใส่ได้ค่ะ)

      *ปริมาณ Sauerteig ที่บอกไว้ข้างบนหมายถึง Sauerteig ที่หมักเองค่ะ วิธีทำ
      ไม่ยุ่งยากแต่ต้องใช้เวลาหมักอย่างน้อย 3 วัน เช่นสูตรบอกต้องการ Sauerteig 300 กรัม
      ปริมาณและขั้นตอนการหมักคือ

      - วันที่ 1 Roggenmehl,Type1150 50 กรัม ผสมน้ำอุ่น 40C 50 มล. คนให้เข้ากัน ปิดฝา
      พักไว้ในที่อุ่นอุณหภูมิห้อง 17-24 ชม. (1 วัน)
      - วันที่ 2 ใส่ Roggenmehl,Type1150 อีก 50 กรัม กับน้ำอุ่น 40C อีก 50 มล. ลงในแป้ง
      ที่หมักไว้วันแรก คนเข้ากัน ปิดฝา พักที่อุ่นอุณภูมิห้องอีก 17-24 ชม. (1 วัน)
      - วันที่ 3 Roggenmehl,Type1150 อีก 50 กรัม กับน้ำอุ่น 40C อีก 50 มล. ลงในแป้ง
      ที่หมักไว้สองวันก่อน คนเข้ากัน ปิดฝา พักที่อุ่นอุณภูมิห้องอีก 17-24 ชม. (1 วัน)

      พอหมักครบ 3 วันเราก็จะได้ Sauerteig ปริมาณ 300 กรัมมาใช้ทำขนมปังได้เลยค่ะ Sauerteig
      ที่เราหมักเองเนี่ยต้องใช้เวลาหมักหลายวัน หากอบขนมปังกินเองบ่อยๆ ก็หมักไว้ปริมาณมากหน่อย แล้ว
      นำ Sauerteig ส่วนที่เหลือจากการใช้ไปใส่ตู้เย็นเก็บไว้ใช้ครั้งต่อไปได้ค่ะ

      ** ถ้าเป็น Sauerteig แบบแห้งที่ซื้อสำเร็จรูป ต้องดูปริมาณที่เขียนไว้ข้างซองค่ะว่าปริมาณ Sauerteig
      กี่กรัม ใช้สำหรับแป้งกี่กรัม เช่น คุณณัฐบอกว่าข้างซองเขียนไว้ว่าใช้ได้กับแป้งถึง 700 กรัม ในสูตรที่อุ้ยให้
      มีแป้งถึง 825 กรัมเลย (450+255+150(จาก Sauerteig)) เพราะฉะนั้นคุณณัฐก็สามารถใช้ได้ทั้งซอง
      เลยค่ะ แต่ถ้าจะลองทำแค่ครึ่งสูตรก่อนก็ใช้ Sauerteig แค่ครึ่งซองก็พอค่ะ

      *** ปกติ Sauerteig ที่ซื้อสำเร็จรูปจะยีสต์อยู่ในส่วนผสมด้วยนะคะ ถ้า Sauerteig ที่คุณณัฐซื้อมามี
      ยีสต์ผสมด้วย เราต้องลดยีสต์จากสูตรขนมปังลงด้วยค่ะ

      ผสมแป้งทั้ง 2 ชนิดกับเกลือเข้าด้วยกันในอ่าง เติม Sauerteig และน้ำผึ้งลงไป ละลายยีสต์ในน้ำอุ่น
      ก่อนใส่ลงไปรวมกับส่วนผสมอื่น นวดพอเข้ากันแล้วจึงใส่ Leinsamen ลงไปนวดรวมกันจนแป้งเนียน
      และยืดหยุ่นดี รวบแป็นก้อนกลม ใส่อ่างคลุมผ้าพักในที่อุ่น 30 นาทีค่ะ

      จากนั้นนำแป้งมาคลึงให้ทั่ว แล้วขึ้นรูปแบบกลมหรือรีก็ได้ค่ะ วางบนถาดที่ทาเนยบางๆ ไว้ กรีดหน้าทำลาย
      ตามชอบ พักให้ขึ้นอีก 1 ชั่วโมงแล้วอุ่นเตาอบ 200 ซี เมื่อเตาอบร้อนได้ที่นำเข้าอบประมาณ 40 นาที
      หรือจนสุกสีสวย ระหว่างที่อบนั้นก็หมั่นฉีดน้ำเข้าไปในเตาอบด้วยนะคะ ทำแบบนี้จะทำให้ขนมปังมีเปลือกที่
      กรอบค่ะ เมื่อขนมปังสุกให้ใช้แปรงขนมนุ่มชุบน้ำแล้วทาเปลือกขนมปังก่อนนำออกจากเตาอบค่ะ จะช่วยให้
      ขนมปังมีผิวเงาสวยและเปลือกกรอบค่ะ ลองทำดูนะคะ

      Delete
  4. ไม่ได้เข้ามาซะนาน พอเข้ามาก็มาเจอของน่าหม่ำอีกแล้ว
    เดี๋ยวจะต้องลองทำดูบ้างแล้วล่ะค่ะ

    ReplyDelete
    Replies
    1. ลองทำดูนะคะ เผื่อชอบ

      Delete
  5. ลองทำมาแล้วค่ะ หอมมันอร่อยมากเลย คุณสามีชอบค่ะ
    แต่ถ้าเป็นฟักทองที่บ้านเรา คิดว่าคงจะหอมมันกว่า
    แต่ยังไงก็อร่อยค่ะ ขอบคุณสำหรับสูตรดี ๆ นะคะ

    ReplyDelete
    Replies
    1. อ้าว ทำแล้วเหรอคะ หน้าแตกเลย เพิ่งบอกเมื่อกี๊ว่าลองทำดู แง่มๆ
      จริงค่ะ ถ้าได้ฟักทองที่รสชาติหวานมันกว่านี้จะอร่อยกว่าแน่นอนค่ะ
      เสียดายตอนนี้มีฟักทองให้เลือกไม่เยอะ ถ้าเป็นช่วงที่มีฟักทองออก
      เยอะๆ มันจะมีหลายพันธุ์ให้เลือก ที่เนื้อแน่นๆ หวานๆ มันๆ คล้าย
      ฟักทองไทยก็มีค่ะ

      Delete
  6. หวัดดีค่ะ :)
    อ่านบล็อกนี้ครั้งแรกเลย
    ลองเอาไปทำแล้ว
    อร่อยมากกกกกกกกกกเลยค่ะ
    มีแต่คนชม อิอิ
    ขอบคุณมากเลยนะคะ <3

    Aim~

    ReplyDelete
    Replies
    1. ดีใจจังค่ะที่ทำแล้วออกมาดี คนทานชอบ คนทำก็ปลื้มนะคะ

      Delete
  7. น่าทานมากๆเลยค่ะ ไว้เดี๋ยวขอลองทำตามบ้างนะคะ :D

    ReplyDelete
    Replies
    1. ลองทำดูนะคะ เผื่อถูกใจค่ะ

      Delete
  8. ขอบคุุณสำหรับสูตรขนมค่ะ ชอบสูตรขนมของคุณนะคะ เคยเข้ามาดูสูตรหลายครั้งแต่ไม่เคยเขียนขอบคุณสักครั้ง วันนี้ถือโอกาสขอบคุณซะเลย การให้ความรู้แก่ผู้อื่นเป็นบุญกุศลอย่างหนึ่ง ขอให้คุณประสบแต่ความสุขความเจริญค่ะ

    ReplyDelete
    Replies
    1. ขอบคุณเช่นกันนะคะสำหรับคำอวยพร และขอให้พรนี้ย้อนกลับไปหาคุณเช่นกันค่ะ

      Delete