ส่วนผสมฐานครัสท์ สำหรับถาดขนาด 18x18 ซม.
- เนยสดเย็น 30 กรัม
- ไข่ไก่ 1/2 ฟองเล็ก
- น้ำตาลทรายแดง 15 กรัม
- ผิวมะนาวขูด 1/2 ชช. หรือกลิ่นมะนาว 2-3 หยด
- เกลือป่น 1 หยิบมือ
- แป้งอเนกประสงค์ 60 กรัม
วิธีทำ
อุ่นเตาอบไว้ที 200°C/400°F เตรียมถาดทาเนยบางๆ ให้ทั่ว แล้วปูกระดาษไขทับ จากนั้นก็หันมาตีเนยตีเนยรวมกับไข่แดง น้ำตาลทราย วานิลา และเกลือพอเข้ากัน แล้วใส่แป้งลงไปตีด้วยความเร็วต่ำแค่พอเข้ากัน อย่าตีนานนะคะเดี๋๋ยวแป้งเหลว จากนั้นก็คลึงแป้งเป็นแผ่นสี่เหลี่ยมให้ใหญ่เท่าฐานพิมพ์ แล้ววางแป้งที่บนถาด ใช้ส้อมจิ้มให้ทั่วแผ่นแป้ง นำเข้าอบประมาณ 10 นาที หรือจนกว่าจะมีสีน้ำตาลสวยค่ะ จากนั้นนำออกจากเตาอบ แล้วพักให้เย็นในถาดค่ะ
ส่วนผสมชีสเค้ก
1. ครีมชีส 250 กรัม
2. ไข่ไก่ 1 ฟอง
3. น้ำตาลทราย 50 กรัม
4. กลิ่นมะนาว 1/2 ชช.
5. น้ำมันพืช 1 ชต.
6. เฮฟวี่ครีม 100 มล.
7. ผิวมะนาวขูด 1 ชช.
8. ผงวานิลลาพุดดิ้ง 10 กรัม
วิธีทำ
1. ครีมชีส 250 กรัม
2. ไข่ไก่ 1 ฟอง
3. น้ำตาลทราย 50 กรัม
4. กลิ่นมะนาว 1/2 ชช.
5. น้ำมันพืช 1 ชต.
6. เฮฟวี่ครีม 100 มล.
7. ผิวมะนาวขูด 1 ชช.
8. ผงวานิลลาพุดดิ้ง 10 กรัม
วิธีทำ
อุ่นเตาอบ 170 องศาเซลเซียส ตีครีมชีสด้วยความเร็วต่ำให้เนียน จากนั้นจึงใส่ไข่ น้ำตาลทราย และกลิ่นมะนาวลงไปตีรวมกัน สุดท้ายใส่ส่วนผสมที่เหลือทั้งหมดตีแค่พอเข้ากัน เทใส่พิมพ์ที่กรุฐานไว้เรียบร้อยแล้วปาดให้เรียบเสมอกันดีค่ะ
ส่งเข้าเตาอบ อบไฟบน-ล่างจนหน้าเค้กเซ็ตตัวดี ใช้เวลาอบประมาณ 40 นาทีค่ะ พอสุกก็เอาชีสเค้กออกมาวางบนตะแกรงให้เย็นอุณหภูมิห้องค่ะ ระหว่างที่รอเค้กเย็นเราก็ไปทำเลมอนเคิร์ดไว้ราดหน้าเค้กกันนะคะ
ส่วนผสมเลมอนเคิร์ด
1. ไข่แดง 2 ฟอง
2. ไข่ทั้งฟอง 1 ฟอง
3. น้ำมะนาว 60 มล.
4. ผิวมะนาวขูดจากมะนาว 1 ลูก
5. น้ำตาลทราย 65 กรัม
6. เนยเค็ม 40 กรัม
1. ไข่แดง 2 ฟอง
2. ไข่ทั้งฟอง 1 ฟอง
3. น้ำมะนาว 60 มล.
4. ผิวมะนาวขูดจากมะนาว 1 ลูก
5. น้ำตาลทราย 65 กรัม
6. เนยเค็ม 40 กรัม
นำหม้อใส่น้ำตั้งไฟให้ร้อนจนเดือดแล้วลดไฟอ่อนสุด ใส่ไข่ น้ำมะนาว และน้ำตาลทรายลงในอ่างผสม นำอ่างวางบนหม้อน้ำร้อน (วิธีเดียวกับ double boiler) ใช้ตะตร้อมือคนส่วนผสมตลอดเวลา คนไปเรื่อยๆ ใจเย็นๆ จนส่วนผสมกลายเป็นครีมข้น ใช้เวลาประมาณ 8-10 นาทีค่ะ จากนั้นยกลงจากเตา เทใส่กระชอนกรองทันทีเพื่อให้เนื้อเนียน กรองแล้วใส่เนยและผิวมะนาวขูดลงไปคนให้เนยละลายหมด แล้วใช้พลาสติกแร็ปหน้าเคิร์ดไว้ นำเข้าตู้เย็นรอให้ชีสเค้กเย็นสนิทแล้วจึงนำเคิร์ดมาราดหน้าชีสเค้กค่ะ
เมื่อราดหน้าชีสเค้กด้วยเคิร์ดแล้วก็นำไปเข้าตู้เย็นไว้สัก 2 ชม. เพื่อให้เคิร์ดเซ็ตตัวก่อนนำออกมาตัด จะทำให้ตัดได้เรียบสวยดูน่าทานนะคะ หากรีบตัดก่อนรับรองเลอะเทอะเปรอะเปื้อนแน่นอนค่ะ
ใครลองทำก็ขอให้อร่อยๆ กันทุกคนนะคะ หากทำแล้วผลที่ได้ออกมาถูกใจหรือไม่ชอบยังไงกระซิบบอกกันมั่งก็ดีค่ะ เพราะถ้ารู้ว่าโพสท์แล้วมีคนลองทำตามเจ้าของบล็อกจะได้มีแรงอัพเดทบ่อยๆ นะคะ ไม่งั้นเดี๋ยวรู้สึกว่าบ้านร้างก็จะพาลขี้เกียจอัพไปเลยค่ะ เมี้ยวๆ
แล้วมาบ่นว่าอ้วน ก็ทำเข้าไปดิ ชีสเค้กอะ 5555 มันน่ามั๊ยละ
ReplyDeleteทำเพราะครีมชีสมันเหลือน่ะหน่อง นี่ก็ยังไม่หมดเลยแต่จะตัดใจโยนทิ้งไปแล้วล่ะ ไม่อยากทำหนมอีก 55
ReplyDeleteอย่างงามขอรับ....
ReplyDeleteชอบมากเลยครับ สวยมาก น่าทาน ขอชมว่าเก๋งมาก
ReplyDeleteน่าทานสุดๆเลยค่ะต้องลองดูซะแล้วค่ะ ขอบคุณมากนะคะ
ReplyDelete♥ ขอบคุณค่า ♥
ReplyDeleteคุณอุ๊ยคะ...ตัวชีสเค้กต้องรอให้เย็นก่อนแล้วค่อยราดเลมอนเคริต์เหรอคะ เห็นในสูตรแม่ปูบอกว่าพออบชีสเค้กออกมาให้ราดเลมอนเคิร์ตได้เลยไม่ต้องรอให้ตัวชีสเค้กเย็น แล้วเลมอนเคร์ตต้องนำไปแช่เย็นก่อนแล้วค่อยนำมาราดชีสเค้ก ตกลงมันแตกต่างกันยังไงคะ รบกวนคุณอุ๊ยแนะนำด้วยค่ะ
ReplyDeleteเรารอให้ชีสเค้กเย็นหรืออุ่นเกือบอุณหภูมิห้องแล้วถึงราดเคิร์ดค่ะ ไม่รู้ว่าของพี่ปูทำยังไง แต่ตัวเองไม่เคยทำแบบที่ราดได้เลย แตกต่างกันยังไงก็ตอบไม่ได้เหมือนกันค่ะเพราะไม่เคยลอง แหะๆ ส่วนตัวเคิร์ดเนี่ยจะแช่เย็นก่อนราดชีสเค้กหรือไม่แช่ก็ได้ค่ะ
ReplyDeleteพึ่งจะเข้ามาดูเวฟครั้งแรกขอเป็นสมาชิกด้วยคนนะคะ เก่งมากเลยค่ะ สวยและน่ารับประทานมาก ขอบคุณนะคะเดียวจะลองทำดู
ReplyDeleteขอบคุณค่ะ ลองทำดูนะคะ
Deleteยากกกง่ะ แต่นู๋อยากหม่ำ ม่ะไหร่มาเมืองไทย มาทำให้หม่ำเลยยย อิอิ
ReplyDeleteยากอะไรกันนู๋จิ๊บเอ๊ย ง่ายๆ แบบนี้จิ๊บทำได้อยู่แล้วจ้ะ
Deleteลองทำแล้วค้า รสชาติถูกใจมากเลยค่ะ
ReplyDeleteขอบคุณค่ะ ดีใจจัง
Deleteเวลาอบนี่ต้องใส่น้ำในถาดรองไว้ด้านล่างมั้ยคะ กันหน้าแตก
ReplyDeleteไม่ต้องใส่น้ำรองถาดก็ได้ค่ะ หน้าไม่แตกหรอก
Delete