ใกล้คริสต์มาสอีกแล้วนะคะ วันนี้เราเลยอบเค้กผลไม้ไว้แจกซะ 5 ก้อน (แต่พวกนี้เป็นรูปเก่านะคะ วันนี้ไม่ได้ถ่ายรูปไว้เลย) ปรับสูตรจากเดิมนิดหน่อย ลดแป้ง ลดน้ำตาล เพิ่มผลไม้ เพิ่มโยเกิร์ต เราแอบแบ่งส่วนผสมใส่พิมพ์เล็กๆ เพื่อชิม 1 พิมพ์ ปรากฏว่าติดอกติดใจค่ะ ชุ่มฉุ่มอร่อยกว่าสูตรเดิมที่ลงไว้มากมาย เชื่อว่าคนรับต้องปลื้มแน่ๆ หากเพื่อนๆ ยังนึกไม่ออกว่าจะทำขนมอะไรเป็นของขวัญคริสต์มาสแจกคนรอบข้างดี ลองอบเค้กผลไม้แจกดูสิคะ อบซะตอนนี้แล้วบ่มไว้ในที่เย็นประมาณ 3 อาทิตย์แล้วค่อยแต่งหน้าและแพ็คสวยๆ นำไปเป็นของฝากก็ดีนะคะ
ส่วนผสม สำหรับพิมพ์โลฟขนาด 25 ซม.
- ผลไม้อบแห้ง 400 กรัม (เราใช้ลูกแพร์ ลูกพลัม แอพริคอท เครนเบอรี่ ลูกพีช สับปะรด แอ๊บเปิ้ล อินทผลัม กีวี ลูกเกด เปลือกส้มและมะนาว)
- อัลมอนด์อบ 20 กรัม
- เม็ดมะม่วงหิมพานต์อบ 30 กรัม
- คอนยัค 1 ชต.
- ไวน์คอกเทลส้ม 125 มล. (ใครทำให้เด็กกินด้วยก็ใส่น้ำผลไม้แทนส่วนนี้ได้ค่ะ)
- แป้งเค้ก 150 กรัม
- ผงฟู 3/4 ชช.
- เบกกิ้งโซดา 1/4 ชช.
- อบเชยป่น 1/4 ชช.
- กานพลูป่น 1 หยิบมือ
- เกลือป่น 1 หยิบมือ
- เนยสดนุ่มๆ 120 กรัม
- น้ำตาลทรายแดง 70 กรัม
- ไข่ไก่ขนาดใหญ่ 2 ฟอง
- วานิลาบัทเทอร์ 1 ชช.
วิธีทำ
หั่นผลไม้อบแห้งเป็นชิ้นไม่เล็กหรือใหญ่เกินไปใส่ในชาม อัลมอนด์กับเม็ดมะม่วงหิมพานต์ก็หั่นหยาบ ๆ แล้วใส่รวมไปด้วยค่ะ เสร็จแล้วใส่คอนยัคและไวน์คอกเทลส้มลงไปคนให้เข้ากัน แล้วใช้พลาสติกแร็ปปากชามอ่าง นำไปหมักในตู้เย็นอย่างน้อย 12 ชม. ค่ะ (บางครั้งเราหมักแค่ 8 ชม. ก็หอมตลบแล้วค่ะ) ระหว่างที่หมักก็นำออกมาคนบ้างนะคะ ผลไม้จะได้ดูดซึมแอลกอฮอล์ได้ทั่วถึง
เมื่อหมักผลไม้ได้ที่แล้วหากใครหมักไม่นานพอ ผลไม้ดูดน้ำไม่หมดแล้วยังมีน้ำเหลืออยู่ในชามอ่างก็อย่าลืมสะเด็ดน้ำด้วยนะคะ น้ำที่ได้จากการสะเด็ดน้ำผลไม้อย่าทิ้งนะคะ เก็บไว้ทาเค้กตอนอบเสร็จได้ค่ะ จะได้หอมๆ และช่วยให้เค้กฉ่ำขึ้นด้วย จากนั้นก็หันไปร่อนแป้งรวมกับผงฟู เบกกิ้งโซดา อบเชย กานพลู และ เกลือรวมกัน 2 รอบค่ะ ทาเนยให้ทั่วพิมพ์แล้วกรุกระดาษไขให้ทั่วพิมพ์ด้วยค่ะ (เราขี้เกียจแค่ปูกระดาษที่ก้นพิมพ์เท่านั้น ขอบเค้กเลยไม่ค่อยสวย อย่าเลียนแบบนะคะ) อุ่นเตาอบไว้ที่ 130ซี ด้วยนะคะ
ตีเนยด้วยความเร็วกลางให้เนียนแล้วค่อยๆ ใส่น้ำตาลทรายแดงลงไปตีรวมกับเนยจนฟูเบาค่ะ จากนั้นก็ใส่ไข่ทีละฟองลงไปตีด้วยความเร็วกลางรวมกับเนย โดยแต่ละครั้งที่ใส่ไข่ต้องตีประมาณ 1 นาทีให้เข้ากับเนยดีจริงๆ แล้วถึงใส่ไข่อีกฟองลงไปตีต่อนะคะ เมื่อเข้ากันดีแล้วก็ใส่วานิลาบัทเทอร์ลงไปตีพอเข้ากันค่ะ
ใส่ครึ่งหนึ่งของส่วนผสมแป้งลงตีด้วยความเร็วต่ำพอเข้ากับส่วนผสมเนย ใส่แป้งส่วนที่เหลือในอ่างผลไม้ที่หมักไว้ โดยพยายามเคล้าให้แป้งติดผลไม้ทุกชิ้นนะคะ เวลาอบผลไม้จะได้กระจายตัวทั่วถึงและไม่จมไปกองอยู่ก้นพิมพ์ที่เดียวค่ะ จากนั้นจึงเทลงไปคนหรือตีด้วยความเร็วต่ำสุดรวมกับส่วนเนยแค่พอเข้ากัน ขั้นตอนนี้ห้ามผสมนานนะคะ เอาแค่พอเข้ากันก็หยุดค่ะ
เสร็จแล้วก็เทใส่พิมพ์เกลี่ยให้เรียบเสมอกันแล้วนำเข้าอบ 130ซี ประมาณ 2 ชม. หรือจนกว่าเค้กจะสุกค่ะ เมื่อเห็นหน้าเค้กเป็นสีน้ำตาลทองแล้วก็ทดสอบโดยการนำไม้ปลายแหลมทิ่มตรงกลางเค้ก หากไม่มีเศษแป้งติดไม้มาแสดงว่าสุกแล้วค่ะ เค้กนี้ต้องอบให้สุกจริงๆ นะคะ หากยังมีเศษแป้งติดไม้ต้องอบต่ออีกสักพักค่ะ
นำเค้กออกจากเตาอบแล้วเอาออกจากพิมพ์ วางไว้บนตะแกรง ใ้ช้แปรงชุบน้ำที่เหลือจากการหมักผลไม้ทาให้ทั่วเค้กตอนที่ยังร้อนอยู่ พักไว้บนตะแกรงจนเย็นสนิทแล้วจึงหุ้มเค้กด้วยผ้าขาวบางให้รอบๆ แล้วพันด้วยพลาสติกแร็ปอีกที ก่อนนำไปบ่มในตู้เย็นอย่างน้อย 3 อาทิตย์ก่อนทานค่ะ หากใครต้องการแช่ช่องแข็งต้องบ่มเค้กไว้ในตู้เย็น 3 อาิทิตย์ก่อนถึงจะฟรีซได้นะคะก่อนเสิร์ฟ 1 ชม. นำเค้กออกจากตู้เย็น แกะพลาสติกและผ้าออก นำแยมแอพริคอท 2 ชต.ผสมน้ำนิดหน่อยอุ่นแล้วคนให้เนียน ใช้แปรงทาแยมเคลือบให้ทั่วเค้ก ตกแต่งหน้าเค้กตามชอบหรือจะไม่แต่งก็ได้ค่ะตามสะดวก ภาพล่างนี้เราใจร้อนแอบตัดชิมหลังจากแช่เย็นไว้แค่วันเดียวเองค่ะ ขนาดใจเร็วด่วนได้อย่างนี้ยังอร่อยเลยค่ะ ถ้าหมักไว้ครบ 3 อาิทิตย์เค้กน่าจะฉ่ำและอร่อยกว่านี้อีกเยอะ ตอนนี้ก็นับวันรอเลยค่ะ
21 comments:
น่าทานจังเลยค่ะคุณมายา เห็นเนื้อเค้ก และผลไม้แห้งแล้ว สุดยอดเลยค่ะ
ทำชิ้นเล็กแล้ว สวย น่ารักน่าทานจังค่ะ
(แจ๊ค)
เข้าตากรรมการอีกแล้ว จะลองดูถ้าว่าง ช่วงนี้ยุ่งมากค่ะ ต้องไปทำงานเป็นเด็กเสริฟอาหารไทย
ทำขนมออกมาได้สวยมากค่ะ รูปก็ถ่ายออกมาสวยค่ะ นั่งดูไปหลายเมนูแล้ว
ติดใจทั้งอาหาร ติดใจทั้งรูปภาพค่ะ
ขอสมัครเป็นลูกศิษย์ ได้มั้ยค่ะ ขนมน่าทานมาก อยากทำเป็นจังเลย
wasabikung
ช่วงนี้ใกล้เทศกาลคริสมาสแล้วเลยอยากทำเค็กสูตรนี้ค่ะ เพราะเห็นหน้าตาแล้ว ชวนให้ อืมมมมม....น่าอร่อย มากๆ
แต่ขอสอบถามว่า ไอ้เจ้าไวน์คอกเทลส้มเนี่ย ในกรุงเทพฯหาซื้อได้ง่ายมั้ย เวลาไปซูเปอร์ฯ จะได้ไม่เหวอค่ะ??
ต้องรีบถามก่อนที่คุณอุ้ยจะลายาว.......
ขอบคุณมากค่ะ
Baked Lover
คุณ Baked Lover จ๋า อุ้ยไม่รู้จริงๆ ค่ะว่าที่กรุงเทพจะหาซื้อเจ้าไวน์คอกเทลส้มได้ที่ไหนรึเปล่า แต่ถ้าหาไม่ได้ก็ไม่มีปัญหาค่ะ คุณ Baked Lover ก็ใช้เหล้ารัม 60 มล. + น้ำส้มคั้น 60 มล. หรือ ไวน์ขาว 100 มล.+ น้ำผึ้ง 1 ชช.+ น้ำส้มคั้น 2 ชต. แทนก็ได้ค่ะ หมักเสร็จแล้วกลิ่นก็หอมฟุ้งกระจายเหมือนกัน
Oh my gosh!น่าทานมากกกก
Thank you for the recipe นะคะ
(I am on my way to shop for the ingredients)
Samantha
Texas.
คุณค๊ะ ทำไมต้องรอ 3 อาทิตย์ ก่อนที่จะนำเค้กออกมาจากตู้เย็นคะ?
เราบ่มเค้กไว้ในตู้เย็นนานๆ ก่อนเสิร์ฟเพื่อให้เหล้าที่หมักซึมเข้าเนื้อเค้กให้มากที่สุด ยิ่งบ่มนานก็ยิ่งอร่อย กลิ่นเหล้าที่ตอนแรกอาจจะแรงไปบ้างแต่หลังจากบ่มไว้นานๆ จะเปลี่ยนเป็นหอมกลมกล่อมยิ่งขึ้นค่ะ
อ้อ..ที่บอกให้บ่มเค้กในตู้เย็นเนี่ยสำหรับประเทศที่อยู่ในโซนร้อน หรือช่วงที่อากาศร้อนนะคะ ใครอยู่เมืองหนาวแล้วทำเค้กหน้าหนาวก็เก็บไว้ห้องที่ไม่ได้เปิดฮีตเตอร์นอกตู้เย็นได้ค่ะ
ขอบคุณมากนะคะที่แวะมาตอบคำถาม ดิฉันลองทำตามสูตร
ปรากฎว่ารสชาตอร่อยมากกก เรา(สามีและเพื่อนๆ)เลยอดใจรอไม่ไหว
ก็เลยทานมันทั้งหมดเลยในวันรุ่งขึ้น
ขอบคุณอีกครั้งนะคะสำหรับแบ่งปันสูตรดีๆให้แก่กัน
P.S
ลืมบอกไปค่ะว่าดิฉันหาไวน์ส้มไม่ได้ ก็เลยใช้ MATHILDE ORANGE XO แทนคะ
Samantha
Texas
น่ามทานมากๆ
น้ำยายไหย
ขอบคุณทุกๆ เม้นท์เลยค่ะ จุ๊บๆ
มันมีรสเหล้าติดด้วยตอนทำเสร็จอ่ะคะ
แอบชิมตอนมันอุ่น ๆ แหะ ๆ
มีวิธีแก้มั้ยคะ หรือว่าถ้าแช่เย็นไว้ก้อหายคะ
วิธีแก้คือไม่ใส่เหล้าค่ะ แหะๆ ไม่ได้กวนนะคะ คือถ้าใส่เหล้ามันก็จะมีรสและกลิ่น
อยู่บ้างน่ะค่ะ แต่ไม่เหลือแอลกอฮอล์แล้วแน่นอน รับรองไม่เมา 55+ แต่ถ้าไม่
ชอบรสและกลิ่นเพราะคนทำไม่ชอบ หรือทำให้เด็กกินก็เปลี่ยนไปใช้น้ำผลไม้หมัก
แทนก็ได้ค่ะ เช่น น้ำส้ม น้ำแอ๊บเปิ้ล อะไรพวกนี้ แล้วใส่กลิ่นรัมหรือกลิ่นลิเคียว
ตามชอบลงไปก็พอแทนได้เหมือนกันค่ะ
สมควรลอกการบ้านมากๆ
ขอบคุณมากค่ะ
ใกล้คริสมาสต์แล้ว เพิ่งจะมาทำการบ้าน แง ๆ ๆ ๆ หมักเค้กไว้แค่อาทิตย์เดียวเนี่ยมันจะอร่อยมั้ยอ่ะค่ะ
ปล.มีคำถามด้วยค่ะ ถาดฟรอยส์ หาซื้อได้ที่ไหนในเยอรมันบ้างคะ ลองเดินตามหลายซุปเปอร์ละคะ ไม่เจอเลย เจอแต่แบบเป็นถ้วยคัพเค้กกระดาษ
ลอกรึยังคะเนี่ย
ตอบในเพจไปแล้วเนอะคุณติ๊กเนอะ
น่าทานเชียวค่ะ
Post a Comment